โปรแกรม ‘ทรี ออฟ ไลฟ์’ คือ โปรแกรมใหม่ด้านความยั่งยืนที่เริ่มมีผลบังคับใช้กับโรงแรม รีสอร์ต และวิลล่าในเครือดุสิตธานีทั่วโลก

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างหลักประกันให้มั่นใจได้ว่าบริษัทฯ มุ่งมั่นรักษาคำมั่นสัญญาที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกในทุกหนแห่งที่เข้าไปดำเนินธุรกิจ ตอกย้ำถึงความยั่งยืนที่เป็นหนึ่งในแกนหลักของการมอบการบริการแบบดุสิต หรือ Dusit Graciousness นั่นเอง โดยจะเริ่มดำเนินการในกลุ่มธุรกิจโรงแรมก่อน

  • เพื่อแสดงคำมั่นของกลุ่มดุสิตต่อเส้นทางสู่ความยั่งยืน
  • เพื่อขับเคลื่อนแนวทางการดำเนินงานหลักด้านความยั่งยืน
  • เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ภายใน และขับเคลื่อนความสำเร็จด้านความยั่งยืนของแต่ละโรงแรม

สร้างรากฐานเพื่ออนาคตที่ดีกว่าเดิม

เพราะสิ่งที่ทำในวันนี้ส่งผลไปถึงอนาคตในวันหน้า ด้วยเหตุนี้โปรแกรม ทรี ออฟ ไลฟ์ จึงเป็นการส่งสารที่บ่งบอกถึงเจตนารมณ์ด้านความยั่งยืนของกลุ่มดุสิตธานีได้อย่างชัดเจน ด้วยขั้นตอนง่ายๆ ที่ทีมงานของโรงแรมสามารถนำมาปฏิบัติตามได้จริง เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสิ่งแวดล้อม เพื่อนร่วมงาน ชุมชนและสังคมโดยรวม พูดให้เข้าใจง่ายๆ ว่าโปรแกรมนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เราดำเนินธุรกิจและส่งมอบการบริการที่มาจากความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างแท้จริง โดยต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจกันภายในองค์กรและการสื่อสารอย่างสม่ำเสมออันจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้โปรแกรมประสบความสำเร็จ

ภาพรวมของ ทรี ออฟ ไลฟ์

โปรแกรมนี้มีเกณฑ์วัดผลการดำเนินงานทั้งหมด 31 ข้อ โดยพิจารณาจากผลกระทบในมิติด้านสิ่งแวดล้อม มิติด้านสังคม และมิติด้านบรรษัทภิบาล (ESG) เป็นสำคัญเพื่อให้มั่นใจได้ว่าโรงแรม รีสอร์ต และวิลล่าภายใต้เครือดุสิตธานีมีการดำเนินงานอย่างยั่งยืนเท่าที่จะสามารถทำได้

ทรี ออฟ ไลฟ์ จัดผลสำเร็จในการดำเนินงาน สำหรับโรงแรม รีสอร์ต และวิลล่า เป็น 4 ระดับ เริ่มจากระดับ 1 ที่เป็นภาคบังคับสำหรับทุกแห่งที่จะต้องผ่านเกณฑ์ฯ ขั้นพื้นฐานที่กำหนด 8 ข้อ เมื่อผ่านเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ โรงแรมจะได้รับ ‘สัญลักษณ์ใบไม้ ตามลำดับความสำเร็จในการดำเนินงาน ยิ่งได้รับใบไม้มากยิ่งแสดงถึงความสำเร็จของโรงแรมนั้นๆ

โปรแกรมนี้ มุ่งเน้นที่การใช้น้ำและพลังงาน การจัดการขยะ และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) โรงแรมที่ผ่านเกณฑ์บังคับขั้นพื้นฐานในระดับ 1 จึงจะสามารถเลื่อนขึ้นไปยังลำดับถัดไปได้

ร่วมกันสร้างความยั่งยืน

ระดับ หลักเกณฑ์

ระดับที่ 1 (ภาคบังคับ)

  • ตรวจสอบแล้วตามเกณฑ์พื้นฐานทั้งหมด (ภาคบังคับ)
  • 1. ห้ามขายสัตว์ที่ชนิดพันธุ์ที่กำหนดซึ่งอยู่ในสภาวะถูกคุกคามมีแนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ในเมนูอาหาร
  • 2. ลดขยะเศษอาหารให้เหลือน้อยที่สุด
  • 3. กำจัดการใช้พลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง - ส่วนที่ให้บริการกับลูกค้าโดยตรง
  • 4. คัดแยกขยะ
  • 5. จัดการด้านพลังงาน
  • 6. ใส่ใจกับความเป็นอยู่ที่ดีของลูกค้าและพนักงาน
  • 7. ต่อต้านการค้าและแสวงประโยชน์ทางเพศจากเด็ก
  • 8. มีส่วนร่วมกับชุมชน

ระดับที่ 2

  • ผ่านระดับที่ 1
  • ตรวจสอบแล้ว 18/31 เกณฑ์

ระดับที่ 3

  • ผ่านระดับที่ 2
  • ตรวจสอบแล้ว 23/31 เกณฑ์

ระดับที่ 4

  • ผ่านระดับที่ 3
  • ตรวจสอบแล้ว 28/31 เกณฑ์

น้ำ:

  • 9. ประหยัดน้ำ
  • 10. นำน้ำกลับมาใช้ใหม่
  • 11. จัดการน้ำเสีย

ของเสีย:

  • 12. ลดการใช้พลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง - ส่วนปฏิบัติการหลังบ้าน
  • 13. แปลงขยะเศษอาหารให้เป็นปุ๋ยหมัก
  • 14. เพิ่มการหมุนเวียนทรัพยากร (ไม่ไปกำจัดด้วยการฝังกลบ)
  • 15. เพิ่มการหมุนเวียนทรัพยากรในโครงการที่ใหญ่ขึ้น

พลังงานและก๊าซเรือนกระจก:

  • 16. วัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • 17. ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
  • 18. ใข้รถพลังงานไฟฟ้า
  • 19. ให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

การบริโภคอย่างรับผิดชอบ:

  • 20. ให้ความใส่ใจกับสวัสดิภาพสัตว์
  • 21. ทำสวนเกษตรอินทรีย์ในโรงแรม
  • 22. จัดหาสินค้าและบริการจากท้องถิ่น
  • 23. ใช้วัตถุดิบอินทรีย์ในเมนูอาหาร
  • 24. จัดซื้อจัดหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • 25. ใช้วัตถุดิบอาหารจากแหล่งที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
  • 26. เสนอทางเลือกเพื่อสุขภาพในเมนูอาหาร

ผู้คนและชุมชน:

  • 27. จัดงานที่สร้างความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมหรือสังคมให้กับลูกค้า
  • 28. ใส่ใจความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการยอมรับความแตกต่าง
  • 29. ส่งเสริมผู้นำสตรี

การประสานความร่วมมือและการรับรู้ของสาธารณะ:

  • 30. อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ
  • 31. ได้รับการรับรองด้านความยั่งยืน

คำมั่นของเรา

The Code

ดุสิตตระหนักดีถึงความเสี่ยงด้านการคุกคามทางเพศซึ่งเป็นปัญหาในระดับโลก รวมถึงการค้าประเวณีที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมการเดินทางและการท่องเที่ยว ด้วยคำมั่นหนึ่งของบริษัทในการต่อต้านการล่วงละเมิดเด็กและปกป้องเด็กจากการแสวงหาประโยชน์ทางเพศ

ดุสิตเป็นผู้นำในประเทศไทยในการเข้าร่วม The Code (ซึ่งย่อมาจาก The Code of Conduct for the Protection of Children from Sexual Exploitation in Travel and Tourism) ตั้งแต่ปี 2563 ด้วยคำมั่นดังกล่าว บริษัทได้ผนวกกรอบการดำเนินงานเพื่อปกป้องเด็กจากการถูกแสวงหาประโยชน์ทางเพศในเชิงพาณิชย์เข้าไว้ในนโยบายของบริษัท รวมถึงการอบรมและทำความเข้าใจกับพนักงาน สำหรับเครือโรงแรมดุสิตธานีในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นโรงแรมที่บริษัทเป็นเจ้าของโรงแรมที่บริษัทบริหาร หรือ โรงแรมที่เป็นแฟรนไชส์ โดยจะต้องรายงานทั้งกรณีที่เกิดขึ้นหรือน่าสงสัยว่าจะเกิดขึ้นต่อผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมในทันทีที่ทราบ และรายงานต่อไปยังฝ่ายทรัพยากรบุคคลของสำนักงานส่วนกลางภายใน 24 ชั่วโมง

WTTC Declaration

บริษัทได้ลงนามในประกาศของสภาการท่องเที่ยวและการเดินทางโลก (WTTC) ว่าด้วยการค้าสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมาย ในการต่อต้านการแสวงหาผลประโยชน์จากสัตว์ที่อยู่ในสภาวะถูกคุกคามมีแนวโน้มเสี่ยงสูญพันธุ์ และเพื่อปกป้องชุมชนและสัตว์ป่า ด้วยคำมั่นนี้ เราได้นำมาตรการทางปกครองมาใช้ดังนี้:

  • ไม่ยอมรับการกระทำใด ๆ เกี่ยวกับการค้าสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมาย
  • เข้าร่วมในการกำจัดตลาดสินค้าจากสัตว์ป่าและสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ออกจากห่วงโซ่อุปทานของเรา
  • เน้นย้ำถึงการจัดหาทรัพยากรอาหารทะเลอย่างรับผิดชอบ
ปกป้องสัตว์ที่อยู่ในภาวะเสี่ยง

บริษัทได้ห้ามการขายสัตว์ที่อยู่ในภาวะเสี่ยงจำนวน 6 ชนิด ตั้งแต่ปี 2562 ได้แก่ ฉลามและหูฉลาม (จากทุกแหล่ง) เต่าทะเลและไข่เต่า (วงศ์ Cheloniidae และวงศ์ Dermochelyidae families จากทุกแหล่ง); ปลาหิมะ (Dissostichus eleginoides, จากทุกแหล่ง); ปลาบึก (Pangasianodon gigas, จากทุกแหล่ง); ปลาเก๋าแอตแลนติคยักษ์หรือปลาหมอทะเล (Epinephelus itajara, จากการจับจากธรรมชาติ) และปลาออเร้นจ์รัฟฟี่หรือปลาหัวเมือก (Hoplostethus atlanticus จากการจับจากธรรมชาติ) และในปี 2565 คณะกรรมการความยั่งยืนของกลุ่มดุสิตได้เห็นชอบการเพิ่มสัตว์อีก 2 ชนิดเข้าไว้ในรายการห้ามขาย ซึ่งได้แก่ Parrotfish (วงศ์ Scaridae จากทุกแหล่ง) and Napolean Wrasses (Cheilinus undulatus, จากทุกแหล่ง)