01 มีนาคม 2549
รายงานผลการดำเนินงานสำหรับปี 2548 เปรียบเทียบปี 2547
วันที่ 1 มีนาคม 2549
เรื่อง รายงานผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2548
เปรียบเทียบผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2547
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ขอรายงานผลการดำเนินงานสำหรับปี 2548 เปรียบเทียบกับปี 2547
ที่ปรากฏในงบกำไรขาดทุนรวม ดังนี้
1. ผลการดำเนินงานของบริษัทในงบการเงินรวม
ปี 2548 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 245.11 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 3 บาท
ซึ่งมากขึ้นจากกำไรสุทธิก่อนรายการพิเศษของปี 2547 จำนวน 32.79 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15 แต่เนื่องจากปี
2547 มีรายการพิเศษที่เกิดจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของบริษัทย่อยคือ บริษัทโคราชธานี จำกัด จำนวน 364.07
ล้านบาท ทำให้ปี 2547 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 576.39 ล้านบาท
2.รายได้จากการขายและการให้บริการ
ปี 2548 ธุรกิจโรงแรมภายใต้บริษัทและบริษัทย่อยรวมทั้งโรงแรมที่รับบริหารโดยภาพรวมดีขึ้น
บริษัทได้ใช้งบประมาณจำนวนมากในการปรับปรุงตกแต่งโรงแรมให้ทันสมัย และเพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย
อทิเช่นการจัดให้มี Executive Club Lounge ห้องพักสำหรับนักธุรกิจ รวมทั้งการให้บริการด้านอินเตอร์เน็ท
และห้องสัมมนา เพื่อรองรับกลุ่มนักธุรกิจ
นอกจากการปรับปรุงโรงแรมแล้วบริษัทยังให้ความสำคัญต่อการฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญต่อธุรกิจกา
รบริการ โดยบริษัทได้ตั้งบริษัทฝึกอบรมเพื่อดำเนินการจัดฝึกอบรมให้กับพนักงานในกลุ่มบริษัทและบริษัทย่อย
และบุคคลทั่วไป ด้านการตลาดบริษัทยังคงดำเนินกิจกรรมด้านการตลาด
โฆษณาประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง
จากการดำเนินการทั้งหมดส่งผลให้บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการเพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 234.33
ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ10 ตามรายละเอียดดังนี้
กลุ่มโรงแรมที่อยู่ภายใต้บริษัท มีรายได้เพิ่มขึ้น 187.56 ล้านบาท ประกอบด้วย
โรงแรมดุสิตธานี สามารถทำรายได้เพิ่มขึ้น 75.07 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12
โรงแรมดุสิต รีสอร์ท พัทยา มีรายได้ เพิ่มขึ้น จำนวน 46.10 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12
โรงแรมดุสิต รีสอร์ท หัวหิน ผลกระทบจากภัยสึนามิ ทำให้ในช่วงต้นปีคือเดือนมกราคม และเดือนกุมภาพันธ์
นักท่องเที่ยวที่นิยมท่องเที่ยวในภาคใต้ของประเทศไทยทางฝั่งทะเลอันดามัน โดยเฉพาะภูเก็ต กระบี่ และพังงา
เดินทางมาท่องเที่ยวที่ฝั่งทะเลตะวันออกมากขึ้น และในช่วงเดือนกรกฏาคม ศูนย์ประชุม ชื่อ เดอะ รอยัล ดุสิต ฮอลล์
ซึ่งมีเนื้อที่ 880 ตรม. ขนาดความจุได้ถึง 1,200 คน เพื่อรองรับการจัดเลี้ยง และการจัดสัมมนา
ของโรงแรมได้สร้างแล้วเสร็จ ส่งผลให้ปี 2548 โรงแรมมีรายได้เพิ่มขึ้น จำนวน 66.39 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 24
กลุ่มโรงแรมที่อยู่ภายใต้บริษัทย่อย มีรายได้เพิ่มขึ้น 46.77 ล้านบาท ประกอบด้วย
โรงแรมดุสิต นิกโก้ มะนิลา หลังจากปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ และการตลาดทำให้ปี 2548โรงแรมมีรายได้เพิ่มขึ้น
จำนวน 56.35 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11
โรงแรมในกลุ่มรอยัล ปริ๊นเซส ประกอบด้วยโรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส หลานหลวง โรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส
ศรีนครินทร์ โรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส เชียงใหม่ และโรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส โคราช เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 13
สิงหาคม 2548 โรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส เชียงใหม่ ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุเพลิงไหม้เล็กน้อย
อันเนื่องมาจากไฟฟ้าลัดวงจรที่บริเวณสำนักงานชั้น 2 ประกอบกับวันที่ 14 สิงหาคม 2548
เกิดอุทกภัยน้ำท่วมที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้โรงแรมต้องปิดดำเนินการชั่วคราว อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมรายได้ทั้ง 4
แห่งดังกล่าว ในปี 2548 มีรายได้เพิ่มขึ้นจำนวน 3.93 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.80
โรงแรมดีทู เชียงใหม่ อยู่ภายใต้บริษัท ดุสิตโฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด
ซึ่งเป็นโรงแรมแบรนด์ใหม่ของเครือดุสิตธานี เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว
ขนาดโรงแรมและจำนวนห้องพักจะน้อยกว่าโรงแรมในกลุ่มดุสิตธานี แต่จะมีความทันสมัย
และให้ความสะดวกสบายแก่ลูกค้าด้วยการให้บริการในรูปแบบใหม่
เริ่มเปิดดำเนินการอย่างไม่เป็นทางการในเดือน พฤศจิกายน 2548 ทำให้ปี 2548 มีรายได้ไม่มากนัก
ตั้งแต่เปิดดำเนินการได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่มาใช้บริการ
เทวารัณย์ สปา ประกอบธุรกิจบริการสถานสุขภาพ โดยใช้ชื่อเทวารัณย์ สปา ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นสปาชั้นนำ
และได้รับความนิยมจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัจจุบันมี 4 แห่ง คือ กรุงเทพ พัทยา ชะอำ/หัวหิน
และล่าสุดที่ เชียงใหม่ ซึ่งเปิดดำเนินการอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 28 ธันวาคม 2548
ในปี 2548 บริษัทมีรายได้จากกิจการสปาลดลง 5.63 คิดเป็นร้อยละ 10 เนื่องจากเทวารัณย์ สปา กรุงเทพ
ได้มีการปรับปรุงตกแต่งในช่วงเดือนมิถุนายน ถึง เดือนสิงหาคม 2548 หลังจากที่ได้เปิดดำเนินการมาแล้ว 4 ปี
ทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวมีรายได้ลดลง
3. รายได้ค่าบริหารโรงแรม
บริษัทมีรายได้ค่าบริหารโรงแรมในปี 2548 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 2.94 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 2
เนื่องจากผลการดำเนินงานของโรงแรมที่รับบริหารในกลุ่มดุสิตและรอยัล ปริ๊นเซสโดยรวมดีขึ้น
4. อาคารพาณิชย์ ดุสิตธานี
ในเดือนตุลาคม 2548 เริ่มทำการปรับปรุงตกแต่งอาคาร และมีการจัดผังการให้เช่าภายในอาคารใหม่
โดยจัดพื้นที่ให้เช่าแต่ละห้องมีพื้นที่มากขึ้น ผู้เช่าเดิมที่ต้องการพื้นที่ขนาดเล็กจึงขอยกเลิกสัญญาเช่าก่อนกำหนด ทำให้ปี
2548 มีรายได้ลดลง 4.40 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16
5. ดอกเบี้ยรับ
บริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยรับในปี 2548 จำนวน 2.76 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนจำนวน 5.14 ล้านบาท
คิดเป็นร้อยละ 65 เนื่องจากบริษัทใช้เงินในการปรับปรุงตกแต่งโรงแรม ทำให้เหลือเงินฝากธนาคารลดลง
ดอกเบี้ยจึงลดลง
6. ต้นทุนขายและการให้บริการ
ปี 2548 บริษัทและบริษัทย่อยมีต้นทุนขายและการให้บริการ จำนวน 1,351.65 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ
52 ของรายได้จากการขายและการให้บริการ ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2547 ที่มีต้นทุนขายและการให้บริการจำนวน
1,254.32 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 53 ของรายได้จากการขายและการให้บริการ
7. ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
ปี 2548 บริษัทและบริษัทย่อยมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจำนวน 731.66 ล้านบาท เพิ่มมากขึ้นจากปี
2547 จำนวน 143.41 ล้านบาท (ปี 2547 มีจำนวน 588.25 ล้านบาท)
สาเหตุใหญ่เกิดจาก ปี 2548 บริษัทมีรายจ่ายภาษีเงินได้จากการที่กรมสรรพากรประเมินภาษีเงินได้ของปี
2543 ปี 2544 และปี 2545 เพิ่มขึ้นจำนวน 25.90 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายก่อนเปิดดำเนินการของโรงแรม ดีทู
เชียงใหม่ จำนวน 42.76 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายสำนักงานที่สหรัฐอาหรับ อิมิเรสต์
เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในภูมิภาคดังกล่าว จำนวน 5.50 ล้านบาท ภาษีโรงเรือนเพิ่มขึ้น 7.06 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทและบริษัทย่อยมี ค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขาย และการตลาด เพิ่มขึ้น จำนวน 55 ล้านบาท
โดยเฉพาะโรงแรมดุสิตธานีกรุงเทพ
มีค่าใช้จ่ายจากการโฆษณาและส่งเสริมการขายจากการประกวดนางงามจักรวาลจำนวน 10 ล้านบาท สำหรับบริษัท
ดุสิตโฮเต็ลแอนด์รีสอร์ท จำกัด
ซึ่งเป็นบริษัทที่รับบริหารโรงแรมได้มีการว่าจ้างบุคลากรเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการขยายงานในอนาคตจึงมีค่าใช้จ่ายดังกล่าว
เพิ่มขึ้น 2.22 ล้านบาท
8. ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย
ในปี 2548 การปรับปรุงตกแต่งโรงแรมดุสิตธานีครั้งใหญ่ และโรงแรมอื่นๆ แล้วเสร็จบางส่วน
จึงเริ่มทยอยตัดค่าเสื่อมราคา ทำให้บริษัทและบริษัทย่อยมีค่าเสื่อมราคาสำหรับปี 2548 จำนวน 361.81 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจำนวน 74.13 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 26
9. ดอกเบี้ยจ่าย
นปี 2548 บริษัทมีดอกเบี้ยจ่ายจำนวน 19.74 ล้านบาท ลดลงจำนวน 30.41 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 61
เกิดจากปี 2547 มีการบันทึกดอกเบี้ยจ่ายของ บริษัท โคราชธานี จำกัด
แต่ได้ทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และขายเงินลงทุน บริษัท โคราชธานี จำกัด
ให้กับบุคคลภายนอกไปเมื่อเดือนธันวาคม 2547 ขณะเดียวกันในปี 2548
มีรายการดอกเบี้ยจ่ายจากการที่บริษัทและบริษัทย่อยกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน เพื่อปรับปรุงตกแต่งโรงแรม
10. ภาษีเงินได้
ปี 2548 บริษัทและบริษัทย่อยมีภาษีเงินได้จำนวน 61.74 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนจำนวน 10.09 ล้านบาท
คิดเป็นร้อยละ 14 ส่วนใหญ่เกิดจากโรงแรมดีทู เชียงใหม่ ที่มีค่าใช้จ่ายก่อนเปิดดำเนินการเป็นจำนวนมาก
อนึ่งเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2549 บริษัทได้ลงนามสัญญารับจ้างบริหารโรงแรม กับ บริษัท ใบลาน รีสอร์ท
จำกัด ตั้งอยู่ที่ 111/1 หมู่ 1 ตำบลเกาะช้างใต้ กิ่งอำเภอเกาะช้าง จังหวัด ตราด 23170
โดยบริษัทจะเข้าดำเนินการดูแลตั้งแต่การออกแบบ และจะได้รับผลตอบแทนเป็นค่าบริการด้านเทคนิค
หลังจากโรงแรมเปิดดำเนินการแล้วบริษัทจะได้รับผลตอบแทนเป็นค่าบริหาร ค่าแรงจูงใจ และค่าบริหารด้านการตลาด
สำหรับโรงแรมที่จะรับจ้างบริหารนี้ ใช้ชื่อว่า ปริ๊นเซส รีสอร์ท เกาะช้าง
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(คุณสินี เธียรประสิทธิ์)
กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ