11 ตุลาคม 2547
สัดส่วนการถือหุ้นและปรับปรุงโครงสร้างหนี้บ.โคราชธานี
8 ตุลาคม 2547
เรื่อง สัดส่วนการถือหุ้น และการปรับปรุงโครงสร้างหนี้
ของบริษัท โคราชธานี จำกัด
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
1. สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท โคราชธานี จำกัด
ตามที่ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2546 เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2546 ของบมจ.รอยัลปริ๊น
เซส ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบมจ.ดุสิตธานี โดยถือหุ้นผ่านบ. ดุสิตธานี อินเตอร์เนชั่นแนล คิดเป็นร้อยละ
79.65 มีมติให้ขายเงินลงทุนในบ. โคราชธานี จำนวน 1,140,000 หุ้นให้กับ บ.ดุสิตธานี อินเตอร์เนชั่น
แนล และณ 30 มิถุนายน 2547 ได้ขายเงินลงทุนไปแล้วจำนวน 1,020,000 หุ้นคิดเป็นร้อยละ 68
ต่อมาวันที่ 24 สิงหาคม 2547 ได้ขายเงินลงทุนอีกจำนวน 120,000 หุ้น รวมเป็นจำนวน 1,140,000
หุ้น คิดเป็นร้อยละ 76 ส่วนที่เหลือเป็นของผู้ถือหุ้นรายย่อยที่เป็นบุคคลภายนอก ทางคณะกรรมการ
บมจ.ดุสิตธานี และ บ.ดุสิตธานี อินเตอร์เนชั่นแนล จึงมีมติให้บ.ดุสิตธานี อินเตอร์เนชั่นแนล ซื้อหุ้น
บ.โคราชธานี จากผู้ถือหุ้นรายย่อยอีกจำนวน 360,000 หุ้น เพื่อให้บริษัทสามารถบริหารงาน
บ.โคราชธานี ได้อย่างอิสระ ณ 8 กันยายน 2547 บ.ดุสิตธานี อินเตอร์เนชั่นแนล ถือหุ้นในบ.โคราชธานี
จำนวน 1,499,994 หุ้นคิดเป็นร้อยละ 99.999
2. การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ กับ บ. บริหารสินทรัพย์ เอ็น เอฟ เอส
ตามที่บ.โคราชธานี มีผลขาดทุนเกินทุน และภาระหนี้สินจำนวนมาก และไม่สามารถชำระหนี้
ให้บ. บริหารสินทรัพย์ เอ็น เอฟ เอส ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ได้ และเจ้าหนี้จึงได้ยื่นฟ้อง ขณะนี้คดีกำลังอยู่ใน
ระหว่างการพิจารณาของศาล ในขณะเดียวกันได้มีการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ กับ บ.บริหารสิน
ทรัพย์ เอ็น เอฟ เอส หลายครั้ง
ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบมจ. รอยัลปริ๊นเซส ครั้งที่ 12/2547 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2547
ได้มีมติอนุมัติให้บมจ.รอยัลปริ๊นเซส ในฐานะผู้ค้ำประกันดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของบ.โคราช
ธานี และที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นบ.โคราชธานี ครั้งที่ 1/2547 เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2547 ได้มีมติ
อนุมัติให้บ.โคราชธานีลงนามในสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ กับ บ. บริหารสินทรัพย์ เอ็น เอฟ เอส
ในวันที่ 27 กันยายน 2547 บ. โคราชธานี ในฐานะลูกหนี้ และบมจ. รอยัลปริ๊นเซส ในฐานะผู้ค้ำ
ประกันจึงได้ลงนามในสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ กับ บ.บริหารสินทรัพย์ เอ็น เอฟ เอส ซึ่งเป็น
เจ้าหนี้ โดยคำนวณหนี้ค้างชำระถึงวันที่ 26 กันยายน 2547 เป็นเงินรวม 766.6 ล้านบาท บมจ.รอยัล
ปริ๊นเซส ในฐานะผู้ค้ำประกันชำระหนี้แทนบ.โคราชธานี จำนวน 325 ล้านบาท โดยนำไปจัดสรรชำระ
ดอกเบี้ยค้างชำระ 159.2 ล้านบาท และชำระเงินต้นค้างชำระบางส่วนเป็นเงิน 165.8 ล้านบาท หลัง
จากนั้นบมจ.รอยัล ปริ๊นเซส รับช่วงสิทธิเป็นเจ้าหนี้อื่น และบ.บริหารสินทรัพย์ เอ็น เอฟ เอส ปลดภาระ
ค้ำประกันทั้งหมดให้บมจ.รอยัลปริ๊นเซส และปลดภาระหนี้บางส่วนให้บ.โคราชธานี คงเหลือหนี้ที่
บ.โคราชธานี ต้องชำระให้แก่บ.บริหารสินทรัพย์ เอ็น เอฟ เอส จำนวน 188.7 ล้านบาท โดยบ.บริหาร
สินทรัพย์ เอ็น เอฟ เอส จะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 5.75 ต่อปี ซึ่งหนี้ที่ค้างชำระดังกล่าวบ. โคราชธานี ต้อง
ชำระภายใน 30 วันนับจากวันที่ 27 กันยายน 2547
จากผลการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ครั้งนี้ ทำให้ บมจ.รอยัลปริ๊นเซส และ บ.โคราชธานี สามารถ
นำจำนวนที่ถูกปลดภาระหนี้ 260.8 ล้านบาท มารับรู้เป็นรายได้ ซึ่งจะทำให้งบการเงินของทั้ง 2
บริษัทปรากฏผลประกอบการดีขึ้น
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(คุณสินี เธียรประสิทธิ์)
กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ