17 พฤศจิกายน 2546
รายงานผลการดำเนินงานสิ้นสุด30ก.ย.2546เปรียบเทียบปี2545
14 พฤศจิกายน 2546
เรื่อง รายงานผลการดำเนินงานสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2546
เปรียบเทียบผลการดำเนินงานสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2545
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
จากผลการดำเนินงานที่ปรากฏในงบการเงินรวมของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) สิ้นสุด
วันที่ 30 กันยายน 2546 มีรายได้ 1,600.8 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงบการเงินรวมสิ้นสุด วันที่ 30
กันยายน 2545 มีรายได้ 1,755.0 ล้านบาท ปรากฏผลลดลง 154.2 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8.79
เกิดจากปัจจัยดังนี้
จากผลกระทบของสงครามระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิรัก และการระบาดของโรคทางเดิน
หายใจเฉียบพลัน (SARS) ในแถบเอเชียประมาณปลายเดือนมีนาคม ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว
เป็นอย่างมาก ทำให้ธุรกิจโรงแรมของบริษัทมีรายได้ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน ลดลง
ในไตรมาสที่ 3 ได้ปรับปรุงตกแต่งโรงแรมดุสิตธานีใหม่ โดยปรับปรุงห้องอาหาร ห้องจัดเลี้ยง
และห้องพัก และได้ปิดอาคาร E-WING ทั้งอาคารจำนวน 237 ห้อง และโรงแรมดุสิตรีสอร์ทพัทยามี
การปรับปรุงตกแต่งห้องพักจำนวน 159 ห้อง รวมสระว่ายน้ำ จึงเป็นผลกระทบให้จำนวนห้องพักลดลง
ทำให้รายได้ลดลง
นอกจากนี้โรงแรมดุสิตนิกโก้ มะนิลา ในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นโรงแรมภายใต้บริษัทย่อยมี
รายได้ลดต่ำลงมาก เกิดจากผลกระทบต่อเนื่องจาก SARS และปัญหาทางเศรษฐกิจและการเมืองภาย
ในประเทศรวมถึงการเคลื่อนไหวของทหารต่อต้านรัฐบาล
ด้านต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2546 มีต้นทุน
ขาย 801.8 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 337 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงบการเงิน
รวมสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2545 มีต้นทุนขาย 831.5 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
291.8 ล้านบาท ปรากฏผลต้นทุนขายลดลง 29.7 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.57 และค่าใช้จ่ายในการ
ขายและบริหารเพิ่มขึ้น 45.20 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15.49
- 2 -
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทต้องจ่ายค่าเช่าที่ดินและอาคารตาม
สัญญาเช่าที่ต่ออายุโดยมีระยะเวลา 15 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2546 ถึงวันที่ 1 เมษายน 2561
เป็นจำนวนเงิน 1,100 ล้านบาท และค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนต่ออายุสัญญาต่อกรมที่ดิน จำนวน
เงิน 11 ล้านบาท รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,111 ล้านบาท โดยแบ่งบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายตามระยะ
เวลา 15 ปี ทำให้ค่าใช้จ่ายเดือนเมษายนถึงเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 37.03 ล้านบาท และโรงแรมดุสิต
นิกโก้ มะนิลา มีการตั้งบัญชีสำรองค่าเผื่อหนี้สูญจำนวน 5.4 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายในการขายและ
บริหารของกิจการด้าน Spa ที่เปิดสาขาใหม่ ที่โรงแรมดุสิตรีสอร์ทพัทยา และโรงแรมดุสิตรีสอร์ทและ
โปโลคลับ
จากผลของปัจจัยดังกล่าวทำให้งบการเงินรวมของบริษัทสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2546
มีผลกำไรสุทธิ 193.5 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงบการเงินรวมสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2545
มีกำไรสุทธิ 346.7 ล้านบาท ปรากฏผลกำไรสุทธิลดลง 153.2 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 44.19
ปัจจุบันการระบาดของ SARS ได้สิ้นสุดลงแล้ว กอร์ปกับภาครัฐให้การส่งเสริมสนับสนุน
ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การปรับปรุงตกแต่งโรงแรมแล้วเสร็จบางส่วน และ
ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีเป็นช่วง High season ของธุรกิจโรงแรม บริษัทมีความเชื่อมั่นว่ารายได้ของ
บริษัทในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีจะปรับตัวดีขึ้น
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นางสินี เธียรประสิทธิ์)
กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ