กรณีพิพาทอาคารโรงแรมดุสิตรีสอร์ท พัทยา

วันที่ 28 มกราคม 2545 เรื่อง กรณีพิพาทอาคารโรงแรมดุสิตรีสอร์ท พัทยา เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ อ้างถึง 1) หนังสือของบริษัท ลว. 19 มีนาคม 2544 2) หนังสือของบริษัท ลว. 26 และ 28 มิถุนายน 2544 3) หนังสือของบริษัท ลว. 3 กรกฎาคม 2544 ตามที่ คุณธเนศ เตลานได้ยื่นฟ้อง บ.แลนด์มาร์ค โฮเต็ล เป็นจำเลยที่ 1 บ.เวิลด์อินเตอร์เทรด คอร์ปอเรชั่น เป็นจำเลยที่ 2 บมจ.ดุสิตธานี เป็นจำเลยที่ 3 และคุณตรีทิพย์ เตลาน เป็นจำเลยที่ 4 ต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2541 เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ บมจ.ดุสิตธานี ขายโรงแรมดุสิตรีสอร์ทพัทยาให้แก่คุณธเนศ เตลาน ในราคา 154,000,000 บาท มิเช่นนั้นให้ชดเชยค่าเสียหายแก่คุณธเนศ เตลานเป็นเงิน 1,045,860,000 บาทนั้น เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2543 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้มีคำพิพากษายกฟ้อง โดยศาลไม่ได้ทำการไต่สวนบมจ.ดุสิตธานี และ บ.แลนด์ มาร์ค โฮเต็ลแต่อย่างใด จึงเป็นอันว่าคุณธเนศ เตลานไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายตามฟ้องจำนวน 1,045,860,000 บาทได้อีกต่อไปนั้น เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2544 บ. เวิลด์อินเตอร์เทรด คอร์ปอเรชั่น จึงได้ยื่นฟ้อง บมจ. ดุสิตธานี ต่อศาลแพ่ง กรุงเทพใต้ เป็นคดีหมายเลขดำที่ 12616/2544 กรณีอาคารโรงแรมดุสิตรีสอร์ท พัทยา ในข้อหาเรียกทรัพย์คืน ละเมิด และเรียกค่าเสียหาย มีทุนทรัพย์ในคดีเป็นเงิน 2,760,000,000 บาท (สองพันเจ็ดร้อยหกสิบล้านบาทถ้วน) จากคำฟ้องดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องในเรื่องกรรมสิทธิ์อาคารโรงแรมดุสิตรีสอร์ทพัทยา ซึ่งทาง บริษัทได้เคยแจ้งให้ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ทราบมาเป็นลำดับตามเอกสารที่อ้างถึง 1) 2) และ 3) โดยละเอียดแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อบริษัทได้รับคำฟ้องจึงมีความจำเป็นต้องยื่นคำให้การต่อสู้คดีและยืนยันว่าบริษัทเป็นเจ้าของ กรรมสิทธิ์ในอาคารโรงแรมดังกล่าวด้วยผลของกฎหมายโดยสมบูรณ์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 และได้ยื่นคำให้การต่อสู้ในประเด็นดังกล่าวต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2545 ซึ่งจะมี การนัดสืบพยานครั้งแรกในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2545 จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความนับถือ ( ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย) ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ