15 พฤศจิกายน 2543
หมายเหตุงบการเงินประจำไตรมาส3ปี2543
บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
หมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
สำหรับไตรมาสและงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2543 และ 2542
(ยังไม่ได้ตรวจสอบ)
1. ความผันผวนทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหลายประเทศได้ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ
มาตั้งแต่ พ.ศ. 2540 งบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะของบริษัทได้รวมถึงผลกระทบของ
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีต่อฐานะการเงินของบริษัทและบริษัทย่อยตามที่ผู้บริหารได้ประเมินไว้
แล้ว
2. เกณฑ์การเสนองบการเงินระหว่างกาล
2.1 งบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะของบริษัทสำหรับไตรมาสและงวดเก้าเดือน สิ้นสุด
วันที่
30 กันยายน 2543 และ 2542 ได้จัดทำขึ้นโดยผู้บริหารของบริษัท โดยยังมิได้มีการตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม บริษัทเห็นว่างบการเงินดังกล่าวได้มีการปรับปรุงเพื่อให้แสดงฐานะการเงิน
และผลการดำเนินงานอย่างถูกต้องตามที่ควรแล้ว
งบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะของบริษัทได้จัดทำขึ้นตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์
แห่งประเทศไทย ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2542 เรื่องการจัดทำและส่งงบการเงินและรายงาน
เกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน (ฉบับที่ 1) พ.ศ. 2542 และ
เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปในประเทศไทย
สำหรับงบดุลรวมและงบดุลเฉพาะของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2542 ซึ่งนำมาแสดงเปรียบ
เทียบ
ได้มาจากงบการเงินของบริษัทและบริษัทย่อย สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันซึ่งได้ตรวจสอบแล้ว
ในงบกระแสเงินสดสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2542 ได้มีการจัดรายการผล
ต่างจากอัตราแลกเปลี่ยนในการแปลงค่างบการเงินของบริษัทย่อย โดยให้แสดงเป็นรายการปรับ
ปรุง
ในแต่ละรายการที่เกี่ยวข้อง และส่วนที่เหลือแสดงเป็นผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงในอัตรา
แลกเปลี่ยนที่มีต่อเงินสด
ในงบดุลรวม และงบดุลเฉพาะของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2542 ได้มีการจัดประเภทรายการ
เจ้าหนี้อื่น และเจ้าหนี้ค่าก่อสร้างใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการแสดงรายการในงบดุลรวม
และงบดุลเฉพาะของบริษัท ณ วันที่ 30 กันยายน 2543 นอกจากนั้นในงบกำไรขาดทุนรวม
และงบกำไรขาดทุนเฉพาะของบริษัทสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2542
ได้มีการจัดประเภทรายการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร และดอกเบี้ยจ่ายใหม่เพื่อให้สอด
คล้องกับการแสดงรายการในงบกำไรขาดทุนรวมและงบกำไรขาดทุนเฉพาะของบริษัทสำหรับ
งวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2543
.../2
- 2 -
ข้อมูลบางประการซึ่งควรจะแสดงอยู่ในงบการเงินที่จัดทำขึ้นตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
มิได้นำมาแสดงไว้ ณ ที่นี้ เนื่องจากมิได้มีการกำหนดให้มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในงบการ
เงินระหว่างกาล ดังนั้น งบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะของบริษัทดังกล่าวข้างต้นจึงควรจะ
อ่านประกอบกับงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะของบริษัทและหมายเหตุประกอบงบการ
เงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2542 ซึ่งได้มีการตรวจสอบแล้ว
2.2 งบการเงินระหว่างกาลรวมแสดงรายการบัญชีรวมของบริษัทย่อยดังต่อไปนี้
อัตราการถือหุ้นร้อยละ
30 กันยายน 31 ธันวาคม
2543 2542 2542
บริษัท ดุสิตโฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด
(เดิมชื่อ บริษัท ดุสิตรีสอร์ท ชะอำ จำกัด) 97.44 97.09 97.32
บริษัท รอยัล ปริ๊นเซส จำกัด (มหาชน) 79.65 79.65 79.65
บริษัท โคราชธานี จำกัด ถือหุ้นโดย
บริษัท รอยัล ปริ๊นเซส จำกัด (มหาชน) 68.00 68.00 68.00
บริษัท ทรัพย์สินธานี จำกัด ถือหุ้นโดย
บริษัท รอยัล ปริ๊นเซส จำกัด (มหาชน) 99.99(2) 77.46(2) 77.46(2)
Philippine Hoteliers, Inc. 85.76 85.76 85.76
บริษัท ดุสิตธานี เดลาแวร์ จำกัด - (3) 100.00(1) 100.00
บริษัท ดุสิตธานี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 99.99 99.99 99.99
บริษัท เทวารัณย์ สปา จำกัด 99.99 - -
(1) ยังไม่ได้สอบทาน
(2) รวมหุ้นบุริมสิทธิซึ่งมีสิทธิได้รับเงินปันผล และออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้นเช่นเดียว
กับหุ้นสามัญ
(3) ณ วันที่ 30 กันยายน 2543 บริษัทย่อยแห่งนี้ได้ชำระบัญชีแล้ว และไม่มียอดคงเหลืออยู่
ในบัญชีที่จะต้องนำมารวม
ณ วันที่ 30 กันยายน 2543 บริษัท ดุสิตโฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท ดุสิตรีสอร์ท
ชะอำ จำกัด) ได้ถือหุ้นสามัญของบริษัท เป็นจำนวน 106,300 หุ้น ราคาทุน 2.64 ล้านบาท โดยจัด
ประเภทเป็นหลักทรัพย์ที่มีไว้เผื่อขายในงบดุลรวม และมิได้นำมาหักจากส่วนของผู้ของผู้ถือหุ้น
เนื่องจากจำนวนไม่มีสาระสำคัญ
…/3
- 3 -
รายการบัญชีและยอดคงค้างระหว่างกันที่สำคัญได้ตัดออกหมดแล้ว
งบการเงินสำหรับไตรมาสและงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2543 ของ บริษัท โคราช
ธานี จำกัด สอบทานโดยผู้ตรวจสอบบัญชีอื่นในสำนักงานเดียวกันซึ่งมิได้ให้ความเชื่อมั่นใด ๆ
ต่องบการเงินดังกล่าว เนื่องจากความไม่แน่นอนอย่างมีสาระสำคัญเกี่ยวกับความสามารถใน
การดำเนินงานต่อเนื่องของบริษัท เนื่องจากการที่เจ้าหนี้ได้ยื่นฟ้องบริษัทนี้ให้ชำระหนี้
ในเดือนธันวาคม 2542 ณ วันที่ 30 กันยายน 2543 บริษัทมีส่วนได้เสียในส่วนของผู้ถือหุ้นของ
บริษัท โคราชธานี จำกัด ในทางอ้อม ร้อยละ 54.16 และบริษัทนี้มีสินทรัพย์รวม 205.76 ล้าน
บาท และมีรายได้รวม สำหรับไตรมาสและงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2543 จำนวน
14.68 ล้านบาท และ 45.70 ล้านบาท ตามลำดับ หรือร้อยละ 5.28 ร้อยละ 2.66 และร้อยละ 2.48
ของแต่ละยอดที่เกี่ยวข้องในงบการเงินรวม
งบการเงินสำหรับไตรมาสและงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2543 ของบริษัท ทรัพย์สิน
ธานี จำกัด สอบทานโดยผู้ตรวจสอบบัญชีอื่นในสำนักงานเดียวกัน ซึ่งได้รายงานว่าไม่พบสิ่งที่
เป็นสาเหตุให้เชื่อว่างบการเงินของบริษัทไม่ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชี
ที่รับรองทั่วไป โดยมีวรรคอธิบายในเรื่องความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนิน
งานต่อเนื่องของบริษัท ฝ่ายบริหารของบริษัทมีแผนเพื่อปรับปรุงในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยบริษัทได้
เพิ่มทุนโดยออกหุ้นบุริมสิทธิ ในระหว่างปี 2542 และได้ทำสัญญากับเจ้าหนี้เพื่อ
ปรับโครงสร้างหนี้แล้ว นอกจากนั้นบริษัทย่อยจะปรับเปลี่ยนนโยบายทางด้านการตลาดเพื่อให้
มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2543 ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ
บริษัท ทรัพย์สินธานี จำกัด ได้มีมติพิเศษให้ลดทุนจดทะเบียนของบริษัทลงจาก 213.00 ล้าน
บาท เป็น 53.25 ล้านบาท โดยลดมูลค่าลงจากเดิมหุ้นละ 100 บาท เป็นหุ้นละ 25 บาท และยังคง
มีจำนวนหุ้นเท่าเดิมคือหุ้นบุริมสิทธิ 930,000 หุ้นและหุ้นสามัญ 1,200,000 หุ้น รวมเป็น
2,130,000 หุ้น และ บริษัทย่อยได้นำมติพิเศษนี้ไปจดทะเบียนกับสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วน
และบริษัทแล้ว เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2543 การลดทุนดังกล่าวข้างต้น ไม่มีผลกระทบต่อฐานะการเงินและผลการดำเนิน
งานของบริษัท รอยัล ปริ๊นเซส จำกัด (มหาชน) เนื่องจากบริษัทได้รับรู้ผลขาดทุนจากบริษัท
ย่อยดังกล่าว จนทำให้เงินลงทุนในหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิ มีมูลค่าลดลงจนเป็นศูนย์แล้ว ณ
วันที่ 30 กันยายน 2543 บริษัทมีส่วนได้เสียในส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท ทรัพย์สินธานี จำกัด
โดยทางอ้อม ร้อยละ 79.64 และบริษัทย่อยดังกล่าวมีสินทรัพย์รวม 260.62 ล้านบาท และมีราย
ได้รวม สำหรับไตรมาสและงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2543 จำนวน 5.05 ล้านบาท
และ 55.33 ล้านบาทตามลำดับ (รวมกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้จำนวน 37.95 ล้านบาท) หรือร้อยละ 6.68
ร้อยละ 0.91 และร้อยละ 3.01 ของแต่ละยอดที่เกี่ยวข้องในงบการเงินรวม
…/4
- 4 -
ถ้าบริษัทย่อย 2 บริษัทไม่สามารถดำเนินงานอย่างต่อเนื่องได้อาจจำเป็นต้องมีการขายสินทรัพย์
หรือจ่ายชำระหนี้สินโดยมีเงื่อนไขซึ่งไม่เป็นไปตามปกติทางธุรกิจและในจำนวนเงินที่แตกต่าง
ไปจากที่แสดงไว้ในบัญชี งบการเงินข้างต้นนี้ยังมิได้รวมรายการปรับปรุงเกี่ยวกับมูลค่าที่จะได้
รับคืนและการจัดประเภทของสินทรัพย์ หรือจำนวนเงินและการจัดประเภทของหนี้สินในกรณีที่
บริษัทย่อยทั้ง 2 บริษัท ไม่สามารถดำเนินงานอย่างต่อเนื่องได้
2.3 งบการเงินรวมสำหรับไตรมาสและงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2542 รวมงบ
การเงินของบริษัทย่อย ซึ่งยังมิได้สอบทาน โดยยอดของรายได้คิดเป็นอัตราร้อยละของรายได้
รวม มีดังต่อไปนี้
อัตรา ร้อยละ
การถือหุ้น ของรายได้รวม
ร้อยละ สำหรับไตรมาสสิ้นสุด สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุด
วันที่ 30 กันยายน 2542 วันที่ 30 กันยายน 2542
บริษัท ดุสิตธานี เดลาแวร์ จำกัด 100.00 0.01 0.35
0.01 0.35
นอกจากนี้ งบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะของบริษัทสำหรับไตรมาสและงวดเก้าเดือนสิ้น
สุดวันที่30 กันยายน 2542 รวมส่วนได้เสียในกำไร (ขาดทุน) สุทธิ ของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมซึ่งยังมิ
ได้สอบทานคิดเป็นร้อยละของกำไรสุทธิได้ดังนี้
ร้อยละของกำไรสุทธิ
อัตรา งบการเงิน
การถือหุ้น เฉพาะของบริษัท
ร้อยละ สำหรับไตรมาสสิ้นสุด สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุด
วันที่ 30 กันยายน 2542 วันที่ 30 กันยายน 2542
บริษัทย่อย
บริษัท ดุสิตธานี เดลาแวร์ จำกัด 100.00 11.50 8.11
11.50 8.11
บริษัทร่วม
Worldclass Rent a Car Co., Ltd. 20.00 - -
- -
รวม 11.50 8.11
…/5
- 5 -
2.4 งบดุลและงบกำไรขาดทุนของบริษัทย่อยในต่างประเทศแปลงค่าเป็นเงินบาทโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยน
ณ วันที่ในงบดุลและอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยตามลำดับ ผลต่างจากการแปลงค่าแสดงไว้ในส่วนของผู้ถือหุ้น
3. การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี
บริษัทและบริษัทย่อยได้ใช้นโยบายบัญชีและวิธีการคำนวณในงบการเงินระหว่างกาลเช่นเดียว
กับที่ใช้ในงบการเงินสำหรับปี 2542 เนื่องจากมีมาตรฐานการบัญชีที่ออกใหม่ และมีผลบังคับใช้ตั้ง
แต่วันที่ 1 มกราคม 2543 การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่เกิดขึ้น และมีผลกระทบต่อบริษัทและ
บริษัทย่อย คือเรื่องที่เกี่ยวกับการนำเสนองบการเงินระหว่างกาล
4. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระแสเงินสด
4.1 เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด
หน่วย : พันบาท
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะของบริษัท
"ยังไม่ได้ตรวจสอบ" "ยังไม่ได้ตรวจสอบ"
สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุด สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุด
วันที่ 30 กันยายน วันที่ 30 กันยายน
2543 2542 2543 2542
เงินสดและเงินฝากธนาคาร 157,503 273,087 57,160 113,584
เงินลงทุนระยะสั้น 245,727 305,550 192,342 277,691
หัก- เงินฝากซึ่งมีกำหนดจ่ายคืน
เกินกว่า 3 เดือนและเงินฝาก
ที่มีภาระผูกพัน (3,427) (3,550) (2,442) (2,691)
- เงินลงทุนระยะสั้นซึ่งมีกำหนด
จ่ายคืนเกินกว่า 3 เดือน (189,000) (173,200) (145,000) (172,000)
210,803 401,887 102,060 216,584
…/6
- 6 -
4.2 เงินสดที่จ่ายสำหรับดอกเบี้ยและภาษีเงินได้มีดังนี้
หน่วย : พันบาท
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะของบริษัท
สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุด สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุด
วันที่ 30 กันยายน วันที่ 30 กันยายน
2543 2542 2543 2542
ดอกเบี้ย 7,226 20,980 44 8,858
ภาษีเงินได้ 132,443 13,391 94,553 -
4.3 รายการที่ไม่เกี่ยวกับเงินสดมีดังต่อไปนี้
4.3.1 สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2543 และ 2542 คือ การบันทึกผลต่างจาก
อัตราแลกเปลี่ยนในการแปลงค่างบการเงินของบริษัทย่อยให้เป็นเงินบาท ซึ่งแสดงเป็น
รายการบวก (หัก) ในส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 1.66 ล้านบาท และ (2.70) ล้านบาท
ตามลำดับในงบการเงินรวม และจำนวน (10.02) ล้านบาท และ 30.49 ล้านบาท ตามลำดับ
ในงบการเงินเฉพาะของบริษัท
4.3.2 สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2543 และ 2542 คือ การบันทึกเงินลงทุน
ในหลักทรัพย์ที่มีไว้เผื่อขายด้วยมูลค่ายุติธรรมและบันทึกกำไร (ขาดทุน) ที่ยังไม่เกิดขึ้นใน
งบการเงินระหว่างกาลรวมและในงบการเงินระหว่างกาลเฉพาะของบริษัท จำนวน (13.60)
ล้านบาท และ 5.76 ล้านบาท ตามลำดับ โดยแสดงไว้ในส่วนของผู้ถือหุ้น
4.3.3 ในงบการเงินเฉพาะของบริษัท สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2543 และ
2542 คือ การรับรู้ส่วนได้เสียในขาดทุนสุทธิที่ยังไม่ได้แบ่งของบริษัทย่อยในส่วนที่เกินเงินลง
ทุน และเกินส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยจำนวนรวมทั้งสิ้น 47.12 ล้านบาท และ 145.16 ล้านบาท
ตามลำดับ เนื่องจากบริษัทจะยังคงให้การสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทย่อยต่อไป
4.3.4 ในงบการเงินรวมสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2543 คือ การโอนดอก
เบี้ยค้างจ่ายจำนวน 76.13 ล้านบาท เจ้าหนี้อื่นจำนวน 6.11 ล้านบาท และเงินกู้ยืมจาก
สถาบันการเงินจำนวน 240.71 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 322.95 ล้านบาท ของบริษัท
ทรัพย์สินธานี จำกัด ไปเป็นส่วนของหนี้สินระยะยาวที่ครบกำหนดชำระภายในหนึ่งปี จำนวน
160.24 ล้านบาท และหนี้สินระยะยาวจำนวน 162.71 ล้านบาท เพื่อให้เป็นไปตาม
ข้อกำหนดในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ลงวันที่ 28 มีนาคม 2543
4.3.5 ในงบการเงินรวม สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2543 ดอกเบี้ยที่เจ้าหนี้
ลดให้แก่บริษัทย่อยแห่งหนึ่ง จำนวน 37.95 ล้านบาท แสดงเป็นกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้
(ดูหมายเหตุข้อ 10)
…/7
- 7 -
4.3.6 ในงบการเงินเฉพาะของบริษัทสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2543
บริษัทได้โอนธุรกิจรับจ้างบริหารโรงแรมให้แก่บริษัทย่อยแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2543
ตามสัญญาดังกล่าว บริษัทได้โอนสินทรัพย์ต่าง ๆ ไปในราคารวมทั้งสิ้น 3.86 ล้านบาท
และหนี้สินรวม 1.67 ล้านบาท และผลต่างระหว่างสินทรัพย์และหนี้สินบันทึกเป็นเงินสดรับจาก
การขายทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการโอนธุรกิจรับจ้างบริหารโรงแรมจำนวน
2.19 ล้านบาท
5. เงินลงทุนระยะสั้น
ณ วันที่ 30 กันยายน 2543 และ วันที่ 31 ธันวาคม 2542 ในงบการเงินรวม เงินลงทุนระยะสั้น
รวมเงินฝากประจำ จำนวน 3.43 ล้านบาท และ 3.45 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งใช้เป็นหลักประกัน
แก่ธนาคาร ในการออกหนังสือค้ำประกัน และใช้เป็นหลักประกันหนี้เงินกู้ของพนักงานที่มีต่อ
ธนาคาร
ณ วันที่ 30 กันยายน 2543 และ วันที่ 31 ธันวาคม 2542 ในงบการเงินเฉพาะของบริษัท เงินลงทุน
ระยะสั้น รวมเงินฝากประจำ จำนวน 2.44 ล้านบาท และ 2.61 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งใช้เป็น
หลักประกันแก่ธนาคารในการออกหนังสือค้ำประกัน และใช้เป็นหลักประกันหนี้เงินกู้ของ
พนักงานที่มีต่อธนาคาร
6. ลูกหนี้การค้า
ลูกหนี้การค้าที่ค้างชำระแยกตามอายุหนี้ที่ค้างชำระได้ดังนี้
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะของบริษัท
"ยังไม่ได้ตรวจสอบ" "ยังไม่ได้ตรวจสอบ"
30 กันยายน 31 ธันวาคม 30 กันยายน 31 ธันวาคม
2543 2542 2543 2542
จำนวนรายของลูกหนี้ที่ค้างชำระ 955 1,032 521 606
หน่วย : พันบาท
ยอดหนี้ค้างชำระ
ต่ำกว่า 3 เดือน 113,773 142,908 62,423 91,213
3 เดือน ถึง 4 เดือน 2,795 2,637 669 1,028
มากกว่า 4 เดือน ขึ้นไป 17,598 17,170 8,811 9,458
รวม 134,166 162,715 71,903 101,699
ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (17,316) (20,610) (12,797) (12,202)
…/8
- 8 -
7. เงินลงทุนและเงินให้กู้ยืม
เงินลงทุนและเงินให้กู้ยืมประกอบด้วย
7.1 กิจการที่เกี่ยวข้องกัน
หน่วย : พันบาท
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะของบริษัท
"ยังไม่ได้ตรวจสอบ" "ยังไม่ได้ตรวจสอบ"
30 กันยายน 31 ธันวาคม 30 กันยายน 31 ธันวาคม
2543 2542 2543 2542
กิจการที่เกี่ยวข้องกัน
เงินลงทุนในบริษัทย่อย
และบริษัทร่วม (หมายเหตุข้อ 11) 217,742 218,967 953,648 929,367
บวก (หัก) บัญชีปรับมูลค่าของหลักทรัพย์
เพื่อให้เป็นราคายุติธรรม - - (7,984) 6,645
รวม 217,742 218,967 945,664 936,012
7.2 เงินลงทุนอื่น ๆ ประกอบด้วย
หน่วย : พันบาท
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะของบริษัท
"ยังไม่ได้ตรวจสอบ" "ยังไม่ได้ตรวจสอบ"
30 กันยายน 31 ธันวาคม 30 กันยายน 31 ธันวาคม
2543 2542 2543 2542
หลักทรัพย์ที่มีไว้เผื่อขาย
ตราสารทุน
ราคาทุน 53,743 43,744 5,314 5,314
บวก (หัก) บัญชีปรับมูลค่าของหลักทรัพย์
เพื่อให้เป็นราคายุติธรรม (4,405) 9,197 3,579 2,552
49,338 52,941 8,893 7,866
เงินลงทุนทั่วไป
ตราสารทุน 39,491 60,470 - 21,000
หัก ค่าเผื่อการด้อยค่าของหลักทรัพย์ (34,228) (51,921) - (21,000)
5,263 8,549 - -
หลักทรัพย์ที่ถือไว้จนครบกำหนด
ตราสารหนี้ 453,900 - 410,000 -
รวม 508,501 61,490 418,893 7,866
เงินลงทุนดังกล่าวข้างต้น ได้มีการจัดประเภทตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 40 เรื่อง การบัญชี
สำหรับเงินลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน
…/9
- 9 -
8. หนี้สินระยะยาวที่แปลงสภาพเป็นหนี้สินหมุนเวียนตามเงื่อนไขในสัญญากู้ยืม
ณ วันที่ 30 กันยายน 2543 และ วันที่ 31 ธันวาคม 2542 บริษัทย่อยแห่งหนึ่ง คือ บริษัท โคราช
ธานี จำกัดไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในสัญญากู้ยืมเงินได้ และในเดือนธันวาคม 2542
ผู้ให้กู้ยืมได้ยื่นฟ้องบริษัทให้ชำระหนี้แล้ว จึงโอนเงินกู้ยืมจำนวน 240.00 ล้านบาท ไปเป็นหนี้สิน
ระยะยาวที่แปลงสภาพเป็นหนี้สินหมุนเวียนตามเงื่อนไขในสัญญากู้ยืม ซึ่งหนี้สินดังกล่าวค้ำประกัน
โดยการจดจำนองที่ดินพร้อมอาคารโรงแรมของบริษัทย่อย และบริษัท รอยัล ปริ๊นเซส จำกัด
(มหาชน)ค้ำประกันด้วยอีกส่วนหนึ่ง
9. เงินกู้ยืมระยะยาว
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2543 บริษัทย่อยแห่งหนึ่ง คือ บริษัท ทรัพย์สินธานี จำกัด ได้ทำสัญญาปรับ
โครงสร้างหนี้กับบริษัทเงินทุนแห่งหนึ่ง เงื่อนไขในสัญญาดังกล่าวมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้
ยอดหนี้ค้างชำระจนถึงวันที่ปรับโครงสร้างหนี้ ประกอบด้วยรายละเอียดดังต่อไปนี้
หน่วย : พันบาท
เงินต้น 240,712
ดอกเบี้ยค้างชำระ 74,324
ค่าธรรมเนียมป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนค้างจ่าย 6,108
รวม 321,144
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2543 จำนวนเงินที่บริษัท รอยัล ปริ๊นเซส จำกัด (มหาชน) ได้ชำระหนี้ให้
แก่เจ้าหนี้ในฐานะผู้ค้ำประกัน มีดังต่อไปนี้
หน่วย : พันบาท
เงินต้น 151,338
ดอกเบี้ยค้างชำระ 5,057
ค่าธรรมเนียมป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนค้างจ่าย 3,840
รวม 160,235
เมื่อบริษัท รอยัล ปริ๊นเซส จำกัด (มหาชน) ได้ชำระเงินจำนวน 160.23 ล้านบาท ให้แก่เจ้าหนี้
แล้ว เจ้าหนี้ได้ลดดอกเบี้ยให้แก่บริษัทย่อยเป็นจำนวนเงิน 37.95 ล้านบาท (ดูหมายเหตุข้อ 10)
ดังนั้นยอดหนี้คงเหลือที่บริษัทย่อยต้องชำระมีดังต่อไปนี้
1. เงินต้นค้างชำระ จำนวน 89.37 ล้านบาท จะมีการผ่อนชำระเป็นรายงวดจำนวน 32 งวด
ทุกไตรมาสเป็นเงินงวดละ 2.79 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2545 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2553
2. ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนค้างจ่ายรวมทั้งสิ้น
33.58 ล้านบาท ชำระให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2545
…/10
- 10 -
นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นบริษัทย่อยจะต้องชำระดอกเบี้ยให้แก่เจ้าหนี้ดังต่อไปนี้
1. ดอกเบี้ยจากเงินต้น จำนวน 240.71 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 8.25 ต่อปี สำหรับ
ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2543 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2543 ต้องชำระให้เสร็จสิ้นภายในวันที่
31 พฤษภาคม 2545
2. ดอกเบี้ยจากเงินต้นค้างชำระ ตั้งแต่ระยะเวลาวันที่ 1 มิถุนายน 2543 ถึงวันที่ 31
พฤษภาคม 2553 อัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี มีการแบ่งชำระเป็น 2 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 ชำระทุกเดือนในอัตราดังต่อไปนี้
ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2543 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2543 ในอัตราร้อยละ 2 ต่อปี
ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2543 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2545 ในอัตราร้อยละ 4 ต่อปี
ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2545 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2553 ชำระในอัตราร้อยละ MLR ต่อปี
ส่วนที่ 2 ส่วนต่างของดอกเบี้ยระหว่างจำนวนที่ชำระไปแล้วกับจำนวนที่คำนวณตามอัตรา MLR
ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2543 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2545 ต้องชำระให้เสร็จสิ้นภายในวันที่
31 พฤษภาคม 2545
นอกจากนั้นสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ยังได้ระบุเงื่อนไขบางประการเกี่ยวกับการโอนขายทรัพย์
หลักประกันให้แก่บุคคลภายนอกและนำเงินมาชำระหนี้ การโอนทรัพย์หลักประกันชำระหนี้
และมีการกำหนดข้อจำกัดในการจ่ายเงินปันผลของบริษัทย่อยไว้ด้วย
ณ วันที่ 30 กันยายน 2543 และวันที่ 31 ธันวาคม 2542 เงินกู้ยืมระยะยาว ประกอบด้วย
หน่วย : พันบาท
งบการเงินรวม
อัตราดอกเบี้ย 30 กันยายน 31 ธันวาคม
2543 2542
เงินกู้ยืมของบริษัท ทรัพย์สินธานี จำกัด ตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ 128,768 -
เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินโดยบริษัท รอยัล ปริ๊นเซส จำกัด (มหาชน)
มีกำหนดชำระคืนทุกปีจนถึงปี 2543 MLR + 0.75% 7,000 78,000
จนถึงปี 2546 MLR 166,700 -
เงินกู้ยืมระยะยาวโดย Philippine Hoteliers, Inc. SIBOR+1.60% - 112,835
302,468 190,835
หัก ส่วนที่ครบกำหนดชำระภายในหนึ่งปี (37,000) (78,000)
รวม 265,468 112,835
…/11
- 11 -
เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินโดยบริษัท รอยัล ปริ๊นเซส จำกัด (มหาชน) มีกำหนดชำระคืนทุกปี
จนถึงปี 2546 มีการจำนองที่ดินเป็นประกัน โดยเพิ่มวงเงินจำนองจาก 200.00 ล้านบาท เป็น
400.00 ล้านบาท
10. กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทย่อย
กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทย่อย คือ กำไรที่เกิดจากการที่เจ้าหนี้ลดดอกเบี้ยให้แก่
บริษัท ทรัพย์สินธานี จำกัด เป็นจำนวนเงิน 37.95 ล้านบาท (ดูหมายเหตุข้อ 9) หลังจากที่บริษัท
รอยัล ปริ๊นเซส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกัน ชำระหนี้แทนให้ส่วนหนึ่ง เมื่อวันที่ 31
พฤษภาคม 2543
11. รายการระหว่างบริษัทที่เกี่ยวข้อง
รายการระหว่างบริษัทที่เกี่ยวข้องมีดังต่อไปนี้
11.1 เงินลงทุนในบริษัทย่อย บริษัทร่วมและบริษัทที่เกี่ยวข้อง
30 กันยายน 2543
หน่วย : พันบาท
งบการเงินเฉพาะของบริษัท งบการเงินรวม
ชื่อบริษัท ประเภทกิจการ ลักษณะ ทุนชำระแล้ว สัดส่วน เงินลงทุน
ความสัมพันธ์ เงินลงทุน (%) วิธีราคาทุน วิธีส่วนได้เสีย
บริษัทย่อย
1. บริษัท ดุสิตโฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด
(เดิมชื่อ บริษัท ดุสิตรีสอร์ท ขายห้องชุด
ชะอำ จำกัด และรับจ้างบริหาร เป็นบริษัทย่อย 225,000 97.44 404,302 0 0
2. บริษัท รอยัลปริ๊นเซส จำกัด (มหาชน) โรงแรมและ
รับจ้างบริหาร เป็นบริษัทย่อย 600,000 79.65 780,047 298,890 0
3. Philippine Hoteliers, Inc. โรงแรม เป็นบริษัทย่อย PESO 409,870 85.76 688,948 642,109 0
4. บริษัท ดุสิตธานีเดลาแวร์ จำกัด ลงทุนในบริษัทอื่น เป็นบริษัทย่อย US$ 850 100.00 0 0 0
5. บริษัท ดุสิตธานีอินเตอร์
เนชั่นแนล จำกัด ลงทุนในบริษัทอื่น เป็นบริษัทย่อย 4,000 99.99 4,000 3,138 0
6. บริษัท เบสท์เวสเทิร์น
(ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนรับจองห้องพัก เป็นบริษัทย่อย 25 99.30 25 26 26
(ยังมีต่อ)