15 พฤษภาคม 2543
การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของบริษัทย่อย
15 พฤษภาคม 2543
เรื่อง การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของบริษัทย่อย
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ
บริษัทย่อยของ บมจ. ดุสิตธานี คือ บ. ทรัพย์สินธานี ในฐานะลูกหนี้ และ บมจ. รอยัล ปริ๊นเซส
ในฐานะผู้ค้ำประกันได้ลงนามในสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับ บง. ธนชาติ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม
2543 ภาระหนี้สินที่ บ. ทรัพย์สินธานี มีกับ บง. ธนชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2541 ถึงวันที่ 28
มีนาคม 2543 ประกอบด้วยเงินต้นจำนวน 240.712 ล้านบาท ดอกเบี้ยค้างชำระตามอัตราดอกเบี้ยผิด
นัดจำนวน 74.324 ล้านบาท และค่าธรรมเนียมในการซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าจำนวน 6.107 ล้าน
บาท รวมเป็นจำนวน 321.144 ล้านบาท บง.ธนชาติได้ลดดอกเบี้ยจากอัตราผิดนัดชำระเป็นอัตรา MLR
ของธนาคารไทยพาณิชย์ ทำให้ยอดดอกเบี้ยค้างชำระลดลงจาก 74.324 ล้านบาท เป็น 36.373 ล้านบาท
ตามเงื่อนไขในสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ บมจ. รอยัล ปริ๊นเซส ในฐานะผู้ค้ำประกันจะต้อง
ชำระเงินให้แก่ บง ธนชาติ ภายในวันที่ 31 พ.ค. 2543 เท่ากับจำนวนเงินที่ค้ำประกันคือ เงินต้น 151.338
ล้านบาท รวมหนี้อุปกรณ์อย่างอื่นอีก คือ ดอกเบี้ยค้างจ่ายจำนวน 5.057 ล้านบาท และค่าธรรมเนียมใน
การซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าอีกจำนวน 3.839 ล้านบาท รวมเป็นเงินจำนวน 160.235 ล้านบาท
ส่วนยอดหนี้คงเหลือ บ. ทรัพย์สินธานี ต้องเป็นลูกหนี้ บ. ธนชาติต่อไป นอกจากนี้ บมจ. รอยัล
ปริ๊นเซส จะให้ บ. ทรัพย์สินธานี ยืมเงินสำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียนอีกจำนวน 13 ล้านบาทเศษ
จากการที่ บ. ทรัพย์สินธานี มีภาระหนี้สินมาก และผลประกอบการมีผลขาดทุนสะสมเป็น
จำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีการลดทุนจดทะเบียนจากจำนวน 2.13 ล้านหุ้น โดยลดมูลค่าหุ้นจากมูลค่า
หุ้นละ 100 บาท ลงเหลือหุ้นละ 25 บาท ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนในการดำเนินการ เมื่อลดทุน
จดทะเบียนในขั้นตอนนี้แล้ว บ. ทรัพย์สินธานี จะมีขาดทุนสะสมลดลง 159.75 ล้านบาท จะส่งผลให้
ขาดทุนสะสมในงบการเงินรวมของ บมจ. ดุสิตธานี ลดลงเท่ากับจำนวนดังกล่าวด้วย
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นางสินี เธียรประสิทธิ์)
กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ