18 สิงหาคม 2541
ชี้แจ้งกำไรสุทธิ 30/06/41 มากขึ้นจากกำไรสุทธิ 30/06/40
วันที่ 14 สิงหาคม 2541
เรื่อง ชี้แจงกำไรสุทธิสิ้นสุด วันที่ 30 มิถุนายน 2541 มากขึ้นจากงบกำไรสุทธิ
สิ้นสุด วันที่ 30 มิถุนายน 2540 เกินร้อยละ 20
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
งบการเงินตามวิธีส่วนได้เสีย และงบการเงินรวมบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) สิ้น
สุดวันที่ 30 มิถุนายน 2541 (ไตรมาสที่2) มีผลการดำเนินงานกำไรสุทธิตามวิธีส่วนได้เสียจำนวน
565.48 ล้านบาทเศษ และกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมจำนวน 516.78 ล้านบาทเศษ เมื่อเปรียบ
เทียบกับงบการเงินในไตรมาสเดียวกันของปี 2540 ที่มีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 35.46 ล้านบาทเศษแล้ว
บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิสูงขึ้นจำนวน 600.9 ล้านบาทเศษ และ 552.2 ล้านบาทเศษ ตามลำดับ เนื่อง
จากสาเหตุดังนี้
1.โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ และห้องอาหารนอกโรงแรม
-โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ มีรายได้จากการขายและบริการลดลงเล็กน้อย แต่รายได้
อื่นๆ เพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาทเศษ และจากการควบคุมต้นทุนขายและค่าใช้จ่าย ทำให้ต้นทุนและค่าใช้จ่าย
ในการขายลดลง 12.02 ล้านบาทเศษ ส่งผลให้มีกำไรก่อนหักภาษีสูงขึ้นประมาณ 14.5 ล้านบาทเศษ
-ห้องอาหารนอกโรงแรม คือ ห้องอาหารเลอจาแดงและห้องอาหารเสฉวน มีรายได้จาก
การขายและรายได้อื่นๆลดลง 6 ล้านบาทเศษ แต่มีต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายที่ลดลงประมาณ 5.5 ล้าน
บาทเศษ ทำให้มีผลกำไรก่อนหักภาษีลดลงประมาณ 0.5 ล้านบาทเศษ
2.โรงแรมดุสิตรีสอร์ท พัทยา
รายได้จากการขายและบริการสูงขึ้นจำนวน 23.02 ล้านบาทเศษ และรายได้อื่นๆเพิ่ม
ขึ้นจำนวน 7.8 ล้านบาทเศษ ในขณะที่ต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายลดลงประมาณ 4 ล้านบาทเศษ ทำให้มี
ผลกำไรก่อนหักภาษีสูงขึ้นจำนวน 34.9 ล้านบาทเศษ
3.กิจการรับจ้างบริหาร โรงแรม
บริษัทฯ มีรายได้จากค่าบริหารโรงแรมเพิ่มมากขึ้นจำนวน 16.49 ล้านบาทเศษ เนื่องจาก
โรงแรมที่รับบริหารมีรายได้มากขึ้น และทำให้มีกำไรก่อนหักภาษีสูงขึ้นจำนวน 21.6 ล้านบาทเศษ
4.ดอกเบี้ยจ่ายลดลง จำนวน 38.74 ล้านบาทเศษ
5.กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 63.19 ล้านบาทเศษ ซึ่งเกิดจากเงินกู้จำนวน 8.6
ล้านเหรียญสหรัฐ ที่บริษัทฯ ยังมิได้ซื้อสัญญาประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศล่วง
หน้า ซึ่งกำไรดังกล่าวเป็นผลกำไรตามหลักการบัญชี ไม่ใช้กำไรที่แท้จริง
6.อาคารพาณิชย์ มีรายได้ลดลงประมาณ 3.8 ล้านบาทเศษ และ กำไรสุทธิลดลง จำนวน
2.9 ล้านบาทเศษ
7.ค่าใช้จ่ายในการบริหารในส่วนกลางสูงขึ้นจำนวน 1.4 ล้านบาทเศษ
8.ภาษีเงินได้นิติบุคคล บริษัทฯ มีผลขาดทุนสะสมยกมาในไตรมาสที่ 1 ของปี 2541จึงไม่มี
การคำนวนภาษีเงินได้นิติบุคคลในไตรมาสที่ 2 นี้ แต่ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2540 มีภาษีเงินได้นิติบุคคล
จำนวน 4.9 ล้านบาทเศษ
9.กำไรที่เกิดจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อย และบริษัทร่วม
ในงบการเงินตามวิธีส่วนได้เสีย และงบการเงินรวม ปรากฏกำไรที่เกิดจากการขายเงิน
ลงทุนในบริษัท ดุสิตสินธร จำกัด จำนวน 375.8 ล้านบาทเศษ แต่กำไรดังกล่าวไม่ใช้กำไรที่แท้จริง
เป็นเพียงผลกำไรทางบัญชีเท่านั้น เพราะในระหว่างที่บริษัทฯ ได้ไปลงทุนในบริษัทดังกล่าว มีผลขาดทุน
มาโดยตลอด จึงทำให้มูลค่าเงินลงทุนตามตามวิธีส่วนได้เสียลดลง และเมื่อบริษัทฯ ขายเงินลงทุนไป จึง
ปรากฏผลกำไรข้างต้น โดยบริษัทฯ มีกำไรที่แท้จริงเพียงจำนวน 6.3 ล้านบาทเศษ นอกจากนี้ยับริษัทฯ
ได้มีกำไรที่เกิดจากบริษัทย่อย คือ บริษัท ดุสิตธานี เดลาแวร์ จำกัด ที่ได้รับเงินส่วนแบ่งจากการขายหุ้น
ของโรงแรม Melrose ซึ่งทำให้มี ผลกำไรจำนวน 92.4 ล้านบาทเศษ
10. PHILIPPINE HOTELIERS, INC. มีรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้นจำนวน
135.7 ล้านบาทเศษ และรายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้นจำนวน 5.8 ล้านบาทเศษ ทำให้มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน
0.26 ล้านบาทเศษ ดังนั้นบริษัทฯ จึงรับรู้ผลการดำเนินงานร้อยละ 85.76 ตามอัตราส่วนการลงทุน
11.บริษัท ดุสิตสินธร จำกัด ในงบกำไรขาดทุนสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2541 ยังคงปรากฏ
ผลขาดทุนของบริษัท ดุสิตสินธร จำกัด จำนวน 82.4 ล้านบาทเศษ ซึ่งเป็นผลขาดทุนที่บริษัทฯ รับรู้ตาม
อัตราส่วนการลงทุน ในบริษัท ดุสิตสินธร จำกัด สิ้นสุด 31 มีนาคม 2541 เนื่องจากบริษัทฯ ได้ทำสัญญา
ซื้อขายหุ้นและรับชำระเงินในวันที่ 31 มีนาคม 2541
12.บริษัท รอยัลปริ๊นเซส จำกัด (มหาชน)และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและบริการ
ในไตรมาสที่ 2 สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2541 ลดลงจากไตรมาสที่ 2 ของปี 2540 เล็กน้อย แต่ผลขาดทุน
สูงขึ้นจำนวน 21.7 ล้านบาทเศษ เนื่องจากผลการดำเนินงานของบริษัทย่อย คือ บริษัท โคราชธานี
จำกัด และบริษัท ทรัพย์สินธานี จำกัด ลดลง ประกอบกับบริษัททั้ง 2 มีเงินกู้เป็นเงินตราต่างประเทศ
จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการซื้อสัญญาประกันการเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศล่วง
หน้า รวมทั้งดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น
13.บริษัท ดุสิตรีสอร์ท ชะอำ จำกัด รายได้จากการขายและบริการกิจการโรงแรมสูงขึ้น
จำนวน 23.3 ล้านบาทเศษ และรายได้อื่นเพิ่มขึ้นจำนวน 1.3 ล้านบาทเศษ ทำให้ผลประกอบการของ
กิจการโรงแรมมีกำไรมากขึ้นจำนวน 13.4 ล้านบาทเศษ แต่ในงบกำไรขาดทุนของบริษัท ดุสิตรีสอร์ท
ชะอำ จำกัด สิ้นสุด วันที่ 30 มิถุนายน 2540 (ไตรมาสที่ 2) มีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 21.8 ล้านบาท
เศษ ในขณะที่ ไตรมาสที่ 2 ของปี 2540 มีผลขาดทุนจำนวน 3.04 ล้านบาทเศษ ซึ่งสูงขึ้นจำนวน
18.7 ล้านบาทเศษ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการซื้อสัญญาประกันการเสี่ยงจากอัตราเงินต่างประ
เทศล่วงหน้า และดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น ในขณะที่มีรายได้ดอกเบี้ยรับลดลง
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
คุณหญิงชนัตถ์ ปิยะอุย
ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ