รายงานของผู้สอบบัญชี เสนอคณะกรรมการ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ข้าพเจ้าได้สอบทานงบดุลรวม ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2540 และ 2539 และงบกำไรขาด ทุนรวมประจำแต่ละไตรมาสและประจำแต่ละงวดหกเดือนสิ้นสุดเพียงวันเดียว กันตามลำดับของ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ตาม มาตรฐานที่กำหนดโดยสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศ ไทย และข้าพเจ้าได้รับรายงานจากผู้สอบบัญชีอื่นเกี่ยวกับการสอบทานงบ การเงินของบริษัทร่วมแห่งหนึ่ง ซึ่งส่วนได้เสียในขาดทุนสุทธิที่ยัง ไม่ได้แบ่งของบริษัทร่วมแห่งนี้มีจำนวนคิดเป็นร้อยละ (44.52) และ ร้อยละ (121.21) ของขาดทุนสุทธิประจำไตรมาสและประจำงวดหกเดือนสิ้น สุดเพียงวันที่ 30 มิถุนายน 2540 ตามลำดับ สำหรับไตรมาสและงวดหกเดือนสิ้นสุดเพียงวันที่ 30 มิถุนายน 2540 งบ การเงินรวมได้รวมรายการบัญชีของบริษัทย่อย 2 บริษัท ซึ่งยังไม่ได้ ผ่านการสอบทาน สินทรัพย์รวม และรายได้รวมของบริษัทย่อยแห่งนี้คิด เป็นร้อยละ 17.83 ร้อยละ 26.92 และร้อยละ 23.02 ของแต่ละยอดที่ เกี่ยวข้องในงบการเงินรวมตามลำดับ และนอกจากนั้นส่วนได้เสียในขาดทุน สุทธิที่ยังไม่ได้แบ่งของบริษัทย่อยและบริษัทร่วม ซึ่งคำนวณจากงบการเงินที่ยังมิได้ผ่านการส อบทานมีจำนวนคิดเป็นร้อยละ (5.08) และร้อยละ (6.99) ของขาดทุนสุทธิ ประจำไตรมาสและประจำงวดหกเดือนสิ้นสุดเพียงวัน ที่ 30 มิถุนายน 2540 ตามลำดับ และร้อยละ (521.57) และร้อย ละ (64.22) ของขาดทุนสุทธิประจำไตรมาส และกำไรสุทธิประจำงวดหกเดือน สิ้นสุดเพียงวันที่ 30 มิถุนายน 2539 ตามลำดับ - 2 - สำหรับไตรมาสสิ้นสุดเพียงวันที่ 30 มิถุนายน 2539 งบการเงินระหว่าง กาลรวมมิได้รวมรายการบัญชีของบริษัทย่อย 2 บริษัท ตามที่กล่าวไว้ใน หมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 1.2 เนื่องจากงบการเงินของบริษัทย่อย เหล่านี้ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเพียงพอสำหรับการทำงบการเงิน ระหว่างกาลรวม อย่างไรก็ตามบริษัทได้แสดงส่วนได้เสียในขาดทุนสุทธิ ที่ยังไม่ได้แบ่งของบริษัทย่อยเหล่านี้ไว้ในงบกำไรขาดทุนรวมแล้ว การสอบทานงบการเงินระหว่างกาลรวมนี้ส่วนใหญ่ประกอบด้วย การทำความเข้าใจ เกี่ยวกับระบบในการจัดทำงบการเงินการใช้วิธีวิเคราะห์เปรียบเทียบใน การวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน และการสอบถามเจ้าหน้าที่ของบริษัทผู้ มีหน้าที่เกี่ยวข้องทางการเงินและบัญชี ซึ่งการสอบทานนี้มีขอบเขต จำกัดกว่าการตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไปเพื่อแสดง ความเห็นต่องบการเงินมาก ดังนั้นข้าพเจ้าจึงไม่อาจแสดงความเห็นต่องบ การเงินที่สอบทานได้ ยกเว้นเรื่องที่กล่าวไว้ในวรรคที่สองและที่สาม ข้าพเจ้าไม่พบสิ่ง ที่เป็นสาระสำคัญ ซึ่งควรนำมาปรับปรุงงบการเงินระหว่างกาลรวมที่ กล่าวในวรรคแรกให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป จากการสอบ ทานของข้าพเจ้าดังกล่าวข้างต้น และจากรายงานของผู้สอบบัญชีอื่น เติมศักดิ์ กฤษณามระ กรุงเทพมหานคร ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 1106 วันที่ 8 สิงหาคม 2540 สำนักงานดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบดุลรวม ลงวันที่ 30 มิถุนายน ยังไม่ได้ตรวจสอบ หน่วย : พันบาท 2540 2539 สินทรัพย์ สินทรัพย์หมุนเวียน เงินสดและเงินฝากธนาคาร 125,495 76,374 เงินลงทุนระยะสั้น 48,850 2,043,640 ลูกหนี้การค้าและตั๋วเงินรับสุทธิ 159,449 114,666 สินค้าคงเหลือ 192,142 138,769 ลูกหนี้อื่น 70,869 62,993 สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 55,692 93,949 652,497 2,530,391 เงินลงทุนและเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทย่อย บริษัทร่วมและบริษัทอื่น 1,267,415 1,741,205 ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์สุทธิ 2,969,486 2,304,274 สินทรัพย์อื่น 283,110 182,739 รวม 5,172,508 6,758,609 ดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม สอบทานแล้ว บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบดุลรวม ลงวันที่ 30 มิถุนายน ยังไม่ได้ตรวจสอบ หน่วย : พันบาท 2540 2539 หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น หนี้สินหมุนเวียน เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมจากธนาคาร 244,596 41,758 เจ้าหนี้การค้าและตั๋วเงินจ่าย 80,115 79,136 เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 256,338 1,399,910 ส่วนของหนี้สินระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 646,000 1,031,400 หนี้สินหมุนเวียนอื่น 227,291 280,275 1,454,340 2,832,479 เงินกู้ยืมระยะยาว 1,214,480 1,447,960 ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัทย่อย 372,964 264,914 ส่วนของผู้ถือหุ้น 2,130,724 2,213,256 รวม 5,172,508 6,758,609 ดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม สอบทานแล้ว บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบกำไรขาดทุนรวม ยังไม่ได้ตรวจสอบ หน่วย : พันบาท ประจำไตรมาสสิ้นสุด ประจำงวดหกเดือนสิ้นสุด เพียงวันที่ 30 มิถุนายน เพียงวันที่ 30 มิถุนายน 2540 2539 2540 2539 รายได้ รายได้จากการขายและการบริการ - กิจการโรงแรม 501,984 361,742 1,052,448 797,783 รายได้อื่น 38,761 106,262 92,977 197,362 รวมรายได้ 540,745 468,004 1,145,425 995,145 ค่าใช้จ่าย ต้นทุนขายและการบริการ - กิจการโรงแรม 384,673 253,478 752,954 519,345 ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร 178,072 180,573 378,967 348,925 ภาษีเงินได้ (2,001) 12,593 13,542 39,511 รวมค่าใช้จ่าย 560,744 446,644 1,145,463 907,781 กำไร (ขาดทุน) ก่อนรวมส่วนได้เสียในบริษัทย่อย และบริษัทร่วม (19,999) 21,360 (38) 87,364 ส่วนได้เสียในขาดทุนสุทธิที่ยังไม่ได้แบ่ง ของบริษัทย่อยและบริษัทร่วม (19,303) (31,171) (52,894) (64,703) ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในขาดทุนสุทธิ ของบริษัทย่อย 9,862 3,833 17,474 5,248 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (29,440) (5,978) (35,458) 27,909 กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น ประจำไตรมาส บาท (0.49) (0.10) ประจำงวดหกเดือน บาท (0.59) 0.47 ดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม สอบทานแล้ว บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย หมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม ประจำไตรมาสและประจำงวดหกเดือนสิ้นสุดเพียงวันที่ 30 มิถุนายน 2540 และ 2539 1. เกณฑ์การเสนองบการเงินระหว่างกาลรวม 1.1 งบการเงินระหว่างกาลรวมนี้ได้รวมรายการบัญชีของบริษัทย่อย ดังต่อไปนี้ อัตราการถือหุ้น 2540 2539 บริษัท ดุสิต รีสอร์ท ชะอำ จำกัด 90.36% 90.36% บริษัท รอยัล ปริ๊นเซส จำกัด (มหาชน) 79.65% 79.65% บริษัท โคราชธานี จำกัด ถือหุ้นโดย บริษัท รอยัล ปริ๊นเซส จำกัด (มหาชน) 68.00% 68.00% บริษัท ทรัพย์สินธานี จำกัด ถือหุ้นโดย บริษัท รอยัล ปริ๊นเซส จำกัด (มหาชน) 60.00% 60.00% Philippine Hoteliers, Inc. 76.21% - บริษัท ดุสิตธานีเดลาแวร์ จำกัด 100.00% - 1.2 สำหรับไตรมาสสิ้นสุดเพียงวันที่ 30 มิถุนายน 2539 งบการเงิน ระหว่างกาลรวมมิได้รวมรายการบัญชีของบริษัท Philippine Hotelier, Inc. และ บริษัท ดุสิตธานี เดลาแวร์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นในอัตราร้อย ละ 76.21 และร้อยละ 100.00 ตามลำดับ เนื่องจากงบการเงินของบริษัท ย่อยเหล่านี้ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเพียงพอสำหรับการทำงบการเงิน ระหว่างกาลรวม อย่างไรก็ตามบริษัทได้แสดงส่วนได้เสียในขาดทุนสุทธิ ที่ยังไม่ได้แบ่งของบริษัทย่อยเหล่านี้ไว้ในงบกำไร ขาดทุนรวมแล้ว 2. ภาษีเงินได้ ภาษีเงินได้ของบริษัทและบริษัทย่อยแห่งหนึ่ง คือ บริษัท รอยัล ปริ๊นเซส จำกัด (มหาชน) คำนวณจากกำไรสุทธิของแต่ละบริษัทโดยใช้วิธี ราคาทุนในการแสดงเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม .../2 - 2 - 3. เหตุการณ์สำคัญภายหลังวันสิ้นงวด 3.1 เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศใช้ ระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราแบบลอยตัว ซึ่งค่าเงินบาทจะถูกกำหนดโดย กลไกทางการตลาดที่มีผลสะท้อนมาจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ บริษัทและบริษัทย่อย 4 แห่ง อาจมีผลขาดทุนจากการปรับปรุงระบบอัตรา แลกเปลี่ยนเงินตรา ซึ่งคำนวณจากการแปลงค่าสินทรัพย์และหนี้สินที่ เป็นเงินตราต่างประเทศที่มีอยู่ในบัญชี ณ วัน ที่ 30 มิถุนายน 2540 ให้เป็นเงินบาท หากใช้อัตราอ้างอิงตามประกาศ ของธนาคารแห่งประเทศไทยถัวเฉลี่ยสำหรับระยะเวลาตั้งแต่วัน ที่ 2 กรกฎาคม ถึง 8 สิงหาคม 2540 แล้วจะมีจำนวนรวมประมาณ 316 ล้านบาท 3.2 เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2540 ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติให้เพิ่ม ทุนจดทะเบียนของบริษัท จาก 600,000,000 บาท เป็น 850,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้น สามัญ 85,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท และไดัจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 25,000, 000 หุ้น ให้แก่ Investment Partnership Affiliated to The Goldman Sachs Group, L.P. และ/หรือ สถาบันการเงินไทยที่ได้รับมอบหมายจาก Gold man Sachs Group, L.P. และ/หรือ Goldman Sachs & Co. ในราคาหุ้น ละ 30 บาท ในกรณีที่ผู้ลงทุนรายดังกล่าวกับบริษัทไม่อาจตกลงกันได้ใน รายละเอียดตามสัญญาซื้อขายหุ้นที่จะได้จัดทำขึ้น ที่ประชุมมีมติให้ เป็นดุลยพินิจของ คณะกรรมการที่จะทำการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนดัง กล่าวให้กับผู้ลงทุนรายอื่นต่อไป