รายงานของผู้สอบบัญชี เสนอคณะกรรมการ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ข้าพเจ้าได้สอบทานงบดุลรวม ลงวันที่ 31 มีนาคม 2539 และ 2538 และงบกำไรขาดทุนรวม ประจำแต่ละไตรมาสสิ้นสุดเพียงวันเดียวกันตามลำดับของ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ตามมาตรฐานที่กำหนดโดยสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย ส่วนได้เสียในกำไร (ขาดทุน) สุทธิที่ยังไม่ได้แบ่งของบริษัทย่อยและบริษัทร่วม ซึ่งคำนวณจาก งบการเงินที่ยังไม่ได้ผ่านการสอบทาน มีจำนวนเท่ากับร้อยละ 17.66 และร้อยละ (0.24) ของกำไรสุทธิ ประจำไตรมาสสิ้นสุดเพียงวันที่ 31 มีนาคม 2539 และ 2538 ตามลำดับ งบการเงินระหว่างกาลรวมมิได้รวมรายการบัญชีของบริษัท Philippine Hoteliers, Inc. ซึ่งบริษัทถือหุ้นในอัตราร้อยละ 76.21 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2539 และบริษัท ดุสิตธานี เดลาแวร์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นในอัตราร้อยละ 100.00 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2539 และ 2538 เนื่องจากงบการเงินของบริษัทย่อยเหล่านี้ยังไม่ได้ผ่านการสอบทาน และไม่มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเพียง พอสำหรับการทำงบการเงินระหว่างกาลรวม อย่างไรก็ตามบริษัทได้แสดงส่วนได้เสียจากกำไร (ขาดทุน) สุทธิที่ยังไม่ได้แบ่งของบริษัทย่อยเหล่านี้ไว้ในงบกำไรขาดทุนแล้ว และนอกจากนั้นเงินลงทุนในบริษัท ดุสิตสินธร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมแห่งหนึ่งแสดงในงบการเงินรวมประจำไตรมาสสิ้นสุดเพียงวันที่ 31 มีนาคม 2539 ตามวิธีส่วนได้เสีย แต่งบการเงินของบริษัทร่วมดังกล่าวมิได้รวมส่วนได้เสียในขาดทุนสุทธิ ที่ยังมิได้แบ่งของบริษัทย่อยที่อยู่ในต่างประเทศ ทั้งนี้เนื่องจากงบการเงินของบริษัทย่อยเหล่านั้นไม่ได้ ผ่านการสอบทานและมิได้มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเพียงพอสำหรับการแสดงตามวิธีส่วนได้เสีย - 2 - การสอบทานงบการเงินระหว่างกาลรวมนี้ส่วนใหญ่ประกอบด้วย การทำความ เข้าใจเกี่ยวกับระบบในการจัดทำงบการเงิน การใช้วิธีวิเคราะห์เปรียบ เทียบในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน และการสอบถามเจ้าหน้าที่ของ บริษัทผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทางการเงินและบัญชี ซึ่งการสอบทาน นี้มีขอบเขตจำกัดกว่าการตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่ว ไปเพื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินมาก ดังนั้นข้าพเจ้าจึงไม่อาจ แสดงความเห็นต่องบการเงินที่สอบทานได้ ยกเว้นเรื่องที่กล่าวไว้ในวรรคที่สอง และที่สาม ข้าพเจ้าไม่พบสิ่ง ที่เป็นสาระสำคัญ ซึ่งควรนำมาปรับปรุงงบการเงินระหว่างกาลรวมที่ กล่าวในวรรคแรกให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป จากการสอบ ทานของข้าพเจ้าดังกล่าวข้างต้น ภายหลังการปรับปรุงเกี่ยวกับการ เปลี่ยนแปลงหน่วยงานที่เสนอรายงานย้อนหลังไปยังปีก่อน ๆ ตามที่กล่าว ไว้ในหมายเหตุข้อ 1.2 เติมศักดิ์ กฤษณามระ กรุงเทพมหานคร ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 1106 วันที่ 11 พฤษภาคม 2539 สำนักงานไชยยศ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบดุลรวม ลงวันที่ 31 มีนาคม "ยังไม่ได้ตรวจสอบ" หน่วย : พันบาท 2539 2538 สินทรัพย์ สินทรัพย์หมุนเวียน เงินสดและเงินฝากธนาคาร 83,928 85,789 เงินลงทุนระยะสั้น 1,777,200 1,159,173 ลูกหนี้การค้าและตั๋วเงินรับ สุทธิ 145,724 132,505 สินค้าคงเหลือ 136,305 135,923 เงินให้กู้ยืมระยะสั้น - 7,000 สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 162,353 143,483 2,305,510 1,663,873 เงินลงทุนและเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทย่อย บริษัทร่วมและบริษัทอื่น 1,809,881 98,366 ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์สุทธิ 2,283,248 2,245,920 สินทรัพย์อื่น 143,408 146,845 รวม 6,542,047 4,155,004 ดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม "สอบทานแล้ว" บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบดุลรวม (ต่อ) ลงวันที่ 31 มีนาคม "ยังไม่ได้ตรวจสอบ" หน่วย : พันบาท 2539 2538 หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น หนี้สินหมุนเวียน เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมจากธนาคาร 1,045,387 382,067 เจ้าหนี้การค้าและตั๋วเงินจ่าย 79,848 92,864 เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 1,050,000 333,000 ส่วนของหนี้สินระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 10,000 85,000 หนี้สินหมุนเวียนอื่น 315,538 251,294 2,500,773 1,144,225 เงินกู้ยืมระยะยาว 1,449,680 1,090,760 ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัทย่อย 271,189 283,715 ส่วนของผู้ถือหุ้น 2,320,405 1,636,304 รวม 6,542,047 4,155,004 ดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม "สอบทานแล้ว" บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบกำไรขาดทุนรวม ประจำไตรมาสสิ้นสุดเพียงวันที่ 31 มีนาคม "ยังไม่ได้ตรวจสอบ" หน่วย : พันบาท 2539 2538 รายได้ รายได้จากการขาย - กิจการโรงแรม 436,042 419,475 - กิจการอาคารชุด - 6,546 ส่วนได้เสียในกำไร (ขาดทุน) สุทธิ ที่ยังไม่ได้แบ่งของ บริษัทย่อยและบริษัทร่วม 7,639 (203) รายได้อื่น 91,100 91,399 534,781 517,217 ค่าใช้จ่าย ต้นทุนขาย - กิจการโรงแรม 265,868 256,618 - กิจการอาคารชุด - 4,197 ค่าใช้จ่ายอื่น 168,351 137,985 ภาษีเงินได้ 26,918 37,905 461,137 436,705 ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในกำไร (ขาดทุน) สุทธิของบริษัทย่อย (1,414) (2,473) กำไรสุทธิ 75,058 82,985 534,781 517,217 กำไรสุทธิประจำไตรมาสต่อหุ้น บาท 1.25 0.93 มูลค่าหุ้นละ บาท 10.00 5.00 ดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม "สอบทานแล้ว" บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย หมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม ประจำไตรมาสสิ้นสุดเพียงวันที่ 31 มีนาคม 2539 และ 2538 1. เกณฑ์เสนองบการเงินระหว่างกาลรวม 1.1 งบการเงินระหว่างกาลรวมนี้ได้รวมรายการบัญชีของบริษัทย่อย ดังต่อไปนี้ อัตราการถือหุ้น 2539 2538 บริษัท ดุสิต รีสอร์ท ชะอำ จำกัด 90.36% 90.36% บริษัท รอยัล ปริ๊นเซส จำกัด (มหาชน) 79.65% 79.65% บริษัท โคราชธานี จำกัด ถือหุ้นโดย บริษัท รอยัล ปริ๊นเซส จำกัด (มหาชน) 68.00% 68.00% บริษัท ทรัพย์สินธานี จำกัด ถือหุ้นโดย บริษัท รอยัล ปริ๊นเซส จำกัด (มหาชน) 60.00% 60.00% 1.2 สำหรับไตรมาสสิ้นสุดเพียงวันที่ 31 มีนาคม 2538 ตามที่ได้รายงาน ไว้ในปีก่อน งบการเงินระหว่างกาลรวม มิได้รวมรายการบัญชีของ บริษัท ทรัพย์สินธานี จำกัด สำหรับไตรมาสสิ้นสุดเพียงวัน ที่ 31 มีนาคม 2539 งบการเงินระหว่างกาลรวมได้รวมรายการบัญชีของ บริษัทย่อยแห่งนี้แล้ว นอกจากนั้นได้มีการปรับงบการเงินระหว่างกาล สำหรับไตรมาสสิ้นสุดเพียงวันที่ 31 มีนาคม 2538 ย้อนหลัง เพื่อให้รวมรายการ บัญชีของหน่วยงานต่าง ๆ เช่นเดียวกันแล้ว .../2 - 2 - 1.3 สำหรับไตรมาสสิ้นสุดเพียงวันที่ 31 มีนาคม 2538 งบการเงิน ระหว่างกาลรวมมิได้รวมรายการบัญชีของบริษัท แลนด์มาร์ค โฮเต็ล จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นในอัตราร้อยละ 99.88 เนื่องจาก บริษัทย่อยอยู่ในระหว่างการชำระบัญชีและของบริษัทอื่นอีก บางบริษัท เนื่องจากจำนวนเงินลงทุนไม่มีสาระสำคัญ 2. สินทรัพย์อื่น สำหรับไตรมาสสิ้นสุดเพียงวันที่ 31 มีนาคม 2539 ค่านิยมในการรวม กิจการ ตัดจำหน่ายภายในระยะเวลา 20 ปี สำหรับไตรมาสสิ้นสุดเพียงวันที่ 31 มีนาคม 2538 ค่านิยมดัง กล่าว ตัดจำหน่ายภายในระยะเวลา 5 ปี ผลของการเปลี่ยนแปลงประมาณการดังกล่าว ทำให้กำไรสุทธิประจำไตรมาส สิ้นสุดเพียงวันที่ 31 มีนาคม 2539 เพิ่มขึ้น 8,124 พันบาท หรือ 0.14 บาทต่อหุ้น 3. เหตุการณ์ภายหลังวันสิ้นงวด 3.1 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2539 ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติให้ จ่ายเงินปันผลงวดปลายปี 2538 ให้แก่ผู้ถือหุ้น สามัญ จำนวน 60,000,000 หุ้น ในอัตราหุ้นละ 1.00 บาท รวมเป็น เงิน 60,000 พันบาท โดยมีกำหนดจ่ายในวันที่ 14 พฤษภาคม 2539 3.2 ในวันเดียวกันนั้น ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติให้โอนกิจการ แฟรนไชส์ ธานี ให้เป็น กิจการของบริษัท รอยัล ปริ๊นเซส จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่วัน ที่ 1 พฤษภาคม 2539 ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการดำเนินกิจการของแฟรนไชส์ ธานี