วันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 เรื่อง รายงานผลการดำเนินงานสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 เปรียบเทียบผลการดำเนินงานสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2550 เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ขอรายงานผลการดำเนินงานสำหรับงวดสามเดือนและ เก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 เปรียบเทียบกับงวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2550 ที่ปรากฏในงบกำไรขาดทุนรวม ซึ่งได้นำเสนองบการเงินตามมาตรฐาน การบัญชีไทยฉบับที่ 35โดยสภาวิชาชีพบัญชีไทย ดังนี้ ผลการดำเนินงาน สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 บริษัทและบริษัทย่อยมีผลขาดทุนรวม 28.84 ล้านบาทหักปันส่วนกำไรสุทธิที่เป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยจำนวน 1.78 ล้านบาท เหลือเป็น ขาดทุนของบริษัทจำนวน 30.62 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 20.24 ล้านบาท สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 213.67 ล้านบาท หักปันส่วนกำไรสุทธิที่เป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยจำนวน 9.42 ล้านบาท เหลือเป็น กำไรสุทธิของบริษัทจำนวน 204.25 ล้านบาท เกิดจากกำไรจากการขายที่ดินหลังหักค่าใช้จ่ายและ ภาษีเงินได้จำนวน 170.16 ล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงานจำนวน 34.09 ล้านบาท ประกอบด้วย 1. รายได้จากการขายและการให้บริการ สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 มีรายได้จากการขายและการให้บริการ เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 266.24 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12 ประกอบด้วยกิจการ โรงแรมที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 208.89 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากโรงแรมดุสิตธานี มะนิลา ที่ประเทศ ฟิลิปปินส์ ที่มีการปรับปรุงเมื่อกลางปี 2549 แล้วเสร็จเมื่อปลายปี 2550 ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 80 และโรงแรมอื่นในกลุ่มดุสิต และกลุ่มรอยัล ปริ๊นเซส รายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 และรายได้จากกิจการ อื่นๆ ประกอบด้วยกิจการอาคารพาณิชย์ สถานสุขภาพ ฝึกอบรม และกิจการสอนการประกอบอาหาร มี รายได้เพิ่มขึ้น 57.35 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากกิจการอาคารพาณิชย์ ที่หลังปรับปรุงแล้วเสร็จเมื่อ ปลายปี 2550 และมีการปรับอัตราค่าเช่า มีรายได้เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 40 และกิจการโรงเรียนสอน การประกอบอาหาร ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2549 และเปิดสอนตั้งแต่ สิงหาคม 2550 มีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 49 2. รายได้ค่าบริหารงาน สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 มีรายได้ค่าบริหารงานจำนวน 80.63 ล้านบาทใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 80.51 ล้านบาท 3. กำไรจากการขายที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ ในเดือนพฤษภาคม และสิงหาคม 2551 บริษัทได้ขายที่ดินที่จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้มีกำไรจาก การขายที่ดินหลังหักค่าใช้จ่ายและภาษีเงินได้แล้ว จำนวน 170.16 ล้านบาท 4. ดอกเบี้ยรับ สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 มีดอกเบี้ยรับลดลงจากงวดเดียวกันของปี ก่อนจำนวน 4.93 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 54 เนื่องจากบริษัทและบริษัทย่อยมีการจ่ายคืนเงินกู้บางส่วน และใช้เงินในการปรับปรุงตกแต่งโรงแรม ทำให้เหลือเงินฝากสถาบันการเงิน ลดลง ดอกเบี้ยรับจึงลดลง 5. ต้นทุนขายและการให้บริการ บริษัทและบริษัทย่อยมีต้นทุนขายและการให้บริการ จำนวน 1,279.08 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 53 ของรายได้จากการขายและการให้บริการ ซึ่งมีสัดส่วนใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีต้นทุนขาย และการให้บริการจำนวน 1,159.90 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 54 ของรายได้จากการขายและการ ให้บริการ 6. ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร บริษัทและบริษัทย่อยมีค่าใช้จ่ายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์เครื่องหมายการค้าใหม่ ค่าใช้จ่ายใน การปรับปรุงและพัฒนาระบบการจองห้องพักส่วนกลาง การลงทุนพัฒนา และการว่าจ้างบุคลากรเพิ่มขึ้น นอกจากนี้มีค่าใช้จ่ายต่างๆ ของบริษัท เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต จำกัด ซึ่งประกอบกิจการโรงเรียน สอนทำอาหารที่จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2549 และเปิดสอนตั้งแต่ สิงหาคม 2550 จากปัจจัย ดังกล่าวส่งผลให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจำนวน 741.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก งวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 97.28 ล้านบาท 7. ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย หลังการปรับปรุงตกแต่งโรงแรมในกลุ่มดุสิต กลุ่มรอยัล ปริ๊นเซส แล้วเสร็จได้เริ่มทะยอยตัด ค่าเสื่อมราคา ทำให้บริษัทและบริษัทย่อยมีค่าเสื่อมราคาสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 จำนวน 451.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 71.01 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จาก งวดเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 380.89 ล้านบาท 8. ดอกเบี้ยจ่าย บริษัทและบริษัทย่อยมีดอกเบี้ยจ่ายสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551จำนวน 54.15 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 13.88 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 20 ซึ่งเป็น ดอกเบี้ยจ่ายให้สถาบันการเงินสำหรับเงินกู้ยืมที่บริษัทและบริษัทย่อยกู้ยืมมา เพื่อปรับปรุงตกแต่งโรงแรม ในระหว่างปีที่ผ่านมาบริษัทและบริษัทย่อย มีการจ่ายคืนเงินกู้บางส่วน จึงทำให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลง 9. ภาษีเงินได้ งบการเงินงวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 บริษัทคำนวณภาษีเงินได้ ในอัตราร้อยละ 30 ฐานะการเงิน งบดุลรวมของบริษัทและบริษัทย่อย ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 สินทรัพย์รวม มีจำนวน 5,993.16 ล้านบาท ลดลงจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 จำนวน 522.05 ล้านบาท เกิดจาก สินทรัพย์หมุนเวียน คือเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด เงินลงทุนชั่วคราวลดลง เนื่องจากการจ่าย เงินปันผล ชำระคืนเงินกู้ยืม และปรับปรุงตกแต่งโรงแรม และสินทรัพย์ ไม่หมุนเวียน คือที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์-สุทธิ ลดลงด้วยค่าเสื่อมราคา และการขายที่ดินที่จังหวัดเชียงใหม่ และค่าเช่าที่ดินและ อาคารจ่ายล่วงหน้าส่วนที่เกินหนึ่งปี-สุทธิ มีการตัดจำหน่ายตามระยะเวลาเช่า จึงทำให้มูลค่าทรัพย์สิน ดังกล่าวลดลง หนี้สินรวม มีจำนวน 1,839.01 ล้านบาท ลดลงจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 จำนวน 562.47 ล้านบาท เกิดจากการชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาวในระหว่างงวด และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อ ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 คือ 0.47 ต่อ 1 นอกจากนี้บริษัทยังมีกำไรสะสมที่ ยังไม่จัดสรรจำนวน 1,340.61 ล้านบาท และมีมูลค่าตามบัญชี (Book Value) เท่ากับ 46.48 บาทต่อหุ้น คำอธิบายเพิ่มเติม ตามที่มาตรฐานการบัญชีฉบับใหม่ และมาตรฐานการบัญชีที่มีการแก้ไขโดยสภาวิชาชีพบัญชีไทย มีผลบังคับใช้กับงบการเงินที่มีรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2551 ตาม หมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 1.10 ผู้บริหารของบริษัทได้ประเมินและเห็นว่าการปรับปรุงมาตรฐาน การบัญชีไทยดังกล่าวไม่มีผลกระทบอย่างป็นสาระสำคัญต่องบการเงินที่นำเสนอ เว้นแต่มาตรฐานการ บัญชีไทยฉบับที่ 35 เรื่องการนำเสนองบการเงิน ซึ่งมีผลต่อการนำเสนองบการเงินในส่วนของ ผู้ถือหุ้นส่วนน้อย และการเปิดเผยข้อมูลอื่นตามที่ได้กล่าวไว้ในงบการเงินงวดสิ้นสุด 30 กันยายน 2551 หมายเหตุข้อ 2 จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความนับถือ (สินี เธียรประสิทธิ์) กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ