15 May 2006
รายงานผลการดำเนินงานสิ้นสุด31มี.ค.2549เปรียบเทียบ31มี.ค.2548
วันที่ 15 พฤษภาคม 2549
เรื่อง รายงานผลการดำเนินงานสิ้นสุด วันที่ 31 มีนาคม 2549
เปรียบเทียบผลการดำเนินงานสิ้นสุด วันที่ 31 มีนาคม 2548
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ขอรายงานผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2549
เปรียบเทียบกับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2548 ที่ปรากฏในงบกำไรขาดทุนรวม ดังนี้
ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2549 บริษัทมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้จำนวน 208.8
ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 15.7 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8.1เมื่อหักดอกเบี้ยจ่าย
และภาษีเงินได้จำนวน 67.9 ล้านบาท คงเหลือเป็นกำไรหลังหักภาษีเงินได้จำนวน 140.9 ล้านบาท
เมื่อหักกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยจำนวน 8.5 ล้านบาท ทำให้มีกำไรสุทธิจำนวน 132.4
ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 1.0 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.8 เนื่องจาก
1.รายได้จากการขายและการให้บริการ
ไตรมาสแรกของปี 2549 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและการให้บริการจำนวน 818.0 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 117.7 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16.8 เนื่องจากกิจการโรงแรม
ที่อยู่ภายใต้บริษัทและบริษัทย่อยมีผลประกอบการดีขึ้นดังนี้
กลุ่มโรงแรมที่อยู่ภายใต้ดุสิต ประกอบด้วยโรงแรมดุสิตธานี โรงแรมดุสิต รีสอร์ท พัทยา และโรงแรมดุสิต
รีสอร์ท หัวหิน หลังจากปรับปรุงห้องพัก ห้องอาหาร ห้องจัดเลี้ยง ห้องสัมมนา มีผลทำให้โรงแรมสามารถ
ทำรายได้เพิ่มขึ้น เมื่อรวมกับรายได้ของโรงแรมดุสิต นิกโก้ มะนิลา แล้วรายได้เพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 95.4 ล้านบาท
โรงแรมที่อยู่ภายใต้กลุ่มรอยัล ปริ๊นเซส ประกอบด้วย โรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส หลานหลวง โรงแรมรอยัล
ปริ๊นเซส ศรีนครินทร์ โรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส เชียงใหม่ และโรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส โคราช จากการที่มี
การปรับปรุงตกแต่งห้องพัก ห้องอาหาร ต่อเนื่องจากปีก่อน ส่งผลให้โรงแรมสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้น 7.5 ล้านบาท
โรงแรมดีทู เชียงใหม่ เป็นโรงแรมที่อยู่ภายใต้บริษัท ดุสิตโฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด
เริ่มเปิดดำเนินการอย่างไม่เป็นทางการในเดือน พฤศจิกายน 2548 เป็นโรงแรมแนวใหม่ของเครือดุสิตธานี
มีรายได้ในไตรมาสแรกของปี 2549 จำนวน 14.8 ล้านบาท
2. รายได้ค่าบริหารโรงแรม
บริษัทและบริษัทย่อยเมีรายได้ค่าบริหารโรงแรมในไตรมาสแรกของปี 2549 จำนวน 43.5 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 8.6 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 24.5 เนื่องจากผลการดำเนินงาน
ของโรงแรมกลุ่มดุสิตและรอยัล ปริ๊นเซสที่บริษัทและบริษัทย่อยเข้ารับบริหารโดยรวมดีขึ้น
3. ต้นทุนขายและการให้บริการ
ไตรมาสแรกของปี 2549 บริษัทและบริษัทย่อยมีต้นทุนขายและการให้บริการ จำนวน 370.7 ล้านบาท
คิดเป็นร้อยละ 45.3 ของรายได้จากการขายและการให้บริการ ซึ่งมีสัดส่วนใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปี 2548
ที่มีต้นทุนขายและการให้บริการจำนวน 324.0 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 46.3 ของรายได้จากการขายและ
การให้บริการ
4. ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
ไตรมาสแรกของปี 2549 บริษัทและบริษัทย่อยมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจำนวน 189.9 ล้านบาท
คิดเป็นร้อยละ 21.4 ของรายได้รวม ส่วนไตรมาสเดียวกันของปี 2548 มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจำนวน
155.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20.6 ของรายได้รวม ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารของไตรมาสนี้
เพิ่มขึ้นจากปี 2548 จำนวน 34.6 ล้านบาท
สาเหตุใหญ่เกิดจากโรงแรมดุสิต รีสอร์ท พัทยา ได้ต่อสัญญาเช่าที่ดินเมื่อเดือนมกราคม 2549
ซึ่งมีการปรับอัตราค่าเช่าที่ดินใหม่ ทำให้มีค่าเช่าที่ดินในไตรมาสแรกของปี 2549เพิ่มขึ้นจำนวน 4.0 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายสำนักงานที่ดูไบ สหรัฐอาหรับ อิมิเรสต์ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในภูมิภาคดังกล่าวจำนวน 2.4 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายและการตลาดของบริษัทย่อยจำนวน 4.8 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขาย
และบริหารของโรงแรมดีทู จำนวน 14.5 ล้านบาท
5. ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย
เนื่องจากในต้นปี 2549 การปรับปรุงตกแต่งโรงแรมในกลุ่มดุสิตส่วนใหญ่เสร็จสิ้นแล้ว และกลุ่มรอยัล ปริ๊นเซส
แล้วเสร็จบางส่วน จึงเริ่มทยอยตัดค่าเสื่อมราคา ทำให้บริษัทและบริษัทย่อยมี ค่าเสื่อมราคาสำหรับไตรมาสแรกของปี
2549 จำนวน 116.0 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจำนวน 35.6 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 44.2
6. ดอกเบี้ยจ่าย
ในไตรมาสแรกของปี 2549 บริษัทและบริษัทย่อยมีดอกเบี้ยจ่ายจำนวน 13.1 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจำนวน 11.5
ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 717.2 เป็นดอกเบี้ยจ่ายที่บริษัทและบริษัทย่อยกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน เพื่อปรับปรุง
ตกแต่งโรงแรม
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(คุณสินี เธียรประสิทธิ์)
กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ