11 สิงหาคม 2548 เรื่อง รายงานผลการดำเนินงานสิ้นสุด วันที่ 30 มิถุนายน 2548 เปรียบเทียบผลการดำเนินงานสิ้นสุด วันที่ 30 มิถุนายน 2547 เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ขอรายงานผลการดำเนินงานในงบการเงินสำหรับ ไตรมาสและงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2548 เปรียบเทียบกับไตรมาสและงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2547 ที่มีการปรับปรุงใหม่โดยแก้ไขรายการภาษีเงินได้ของบ.ดุสิตธานี อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ได้รับเงินปันผลจากประเทศฟิลิปปินส์สามารถเครคิตทั้งภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีหัก ณ ที่จ่ายได้เท่ากับภาษีที่จ่ายไปในประเทศฟิลิปปินส์ แต่ต้องไม่เกินภาษีในประเทศไทย จึงทำให้งบกำไรขาดทุนทั้งของไตรมาสที่ 2 และงวด 6 เดือนของปี 2547 หลังปรับปรุงภาษีดังกล่าว แล้วมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 27.05 ล้านบาท และในงบดุล ณ 31 ธันวาคม 2547 ได้มีการ ปรับปรุงกำไรยังไม่จัดสรรจำนวน 24.29 ล้านบาท แต่มีภาษีถูกหักณ ที่จ่ายของประเทศฟิลิปปินส์ ที่ ขอคืนไม่ได้จำนวน 13.74 ล้านบาท คงเหลือกำไรที่ยังไม่จัดสรรเพิ่มขึ้นเพียงจำนวน 10.55 ล้านบาท บริษัทขอรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทในงบการเงินรวมตามรายละเอียดดังนี้ งบกำไรขาดทุน ในไตรมาสที่สอง ของปี 2548 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมจำนวน 612 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ในงวดเดียวกันจำนวน 67 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 12.41 สำหรับงวดหกเดือน แรกของปี 2548 มีรายได้จำนวน 1,365 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 153 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12.59 รายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นรายได้จากการขายและการให้บริการของ กิจการโรงแรมเกือบทุกแห่งเพิ่มขึ้น สำหรับผลกำไรสุทธิไตรมาสที่สองของปี 2548 มีจำนวน 2.28 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบ กับงบกำไรขาดทุนที่ปรับปรุงใหม่ ของไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิลดลงจำนวน 19.41 ล้านบาท คิดเป็นลดลงร้อยละ 89.46 สำหรับกำไรสุทธิงวด 6 เดือนของปี 2548 มีจำนวน 133.64 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจากงบกำไรขาดทุนที่ปรับปรุงใหม่จำนวน 17.99 ล้าน บาท คิดเป็นร้อยละ 11.86 ผลประกอบการของบริษัทมีกำไรสุทธิลดลงสวนทางกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้น เนื่องจาก บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น ในไตรมาสที่ 2 จำนวน 69 ล้านบาท และในงวด 6 เดือนแรกของปี 2548 จำนวน 95 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้เกิดจากการ ดำเนินงานปกติของในงวด 6 เดือนนี้จำนวน 51.4 ล้านบาทเศษ ได้แก่ค่าภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมเบี้ยปรับภาษี และเงินเพิ่มจากการประเมินของกรมสรรพากร ปี 2543 ถึงปี 2545 จำนวน 25.9 ล้านบาท และมีการปรับปรุงภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินเพิ่ม ของปี 2546 และปี 2547 จำนวน 5 ล้านบาท ภาษีโรงเรือนปี 2547 ที่ตั้งค้างจ่ายน้อยกว่าที่ถูกประเมิน 5 ล้านบาท ตั้ง สำรองสำหรับพนักงานเกษียณอายุ 5 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายก่อนเปิดดำเนินงานของโรงแรม ดีทู เชียงใหม่อีก 10.5 ล้านบาทเป็นต้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโดยตรงของบริษัทที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นค่าใช้จ่ายในการโฆษณาและส่งเสริมการขายโดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยเป็น เจ้าภาพจัดประกวดนางงามจักรวาลบริษัทได้ใช้งบประมาณในส่วนนี้ไปกว่า 10 ล้านบาท และยัง ได้มีการโฆษณาและส่งเสริมการขายอื่นๆทั้งนี้เพื่อเพิ่มยอดขายทั้งในปัจจุบันและอนาคต นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้นแล้ว ยังมีค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้นจาก การปรับปรุงตกแต่งโรงแรมโดยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2548 มีค่าเสื่อมราคาสูงขึ้น 16.3 ล้านบาท และในงวด 6 เดือนมีค่าเสื่อมราคาสูงขึ้น 32.3 ล้านบาท ส่วนดอกเบี้ยจ่ายในงวด 6 เดือนปี2548 น้อยกว่างวดเดียวกันของปี 2547 เนื่องจากในงวด 6 เดือนของปี 2547 มีการบันทึกดอกเบี้ยจ่าย ของบ.โคราชธานีในอัตราผิดนัดชำระหนี้ งบดุล สินทรัพย์รวมของบริษัทและบริษัทย่อย ณ 30 มิถุนายน 2548 มีจำนวน 5,169 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ 31 ธันวาคม 2548 จำนวน 513 ล้านบาท เนื่องจากมีการจ่ายค่าเช่าที่ดินล่วงหน้างวด สุดท้ายให้กับสำนักงานทรัพย์สินฯจำนวน 380 ล้านบาท และมีการปรับปรุงตกแต่งโรงแรมเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันด้านหนี้สินได้มีการกู้ยืมเงินเพิ่มขึ้นทำให้มีหนี้สินรวมเพิ่มขึ้น 484 ล้านบาท คำนวณเป็นอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นได้ 0.39 ต่อ 1 นอกจากนี้บริษัทยังมีกำไรยังไม่ จัดสรรจำนวน 696 ล้านบาท เมื่อหักหุ้นสามัญซื้อคืนจำนวน 136 ล้านบาท บริษัทยังคงเหลือกำไร ที่ยังไม่จัดสรรจำนวน 560 ล้านบาท และมีมูลค่าตามบัญชีของผู้ถือหุ้น (Book Value) เท่ากับ 43.39 บาทต่อหุ้น จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความนับถือ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) (นางสินี เธียรประสิทธิ์) กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ